เตรียมความพร้อมรับมือการระบาดในวงกว้าง ยึดเป็นแนวทางเดียวกันทั้งสถานพยาบาลทั้งรัฐและเอกชน ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามนโยบายนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุขในฐานะประธานคณะกรรมการโรคอุบัติใหม่จึงดำริให้ รมช.สธ. ซึ่งกำกับดูแลกรมการแพทย์เตรียมความพร้อมรับมือกับการระบาดในวงกว้าง ควรดำเนินการทั้งในส่วนของสถานพยาบาลทั้งภาครัฐ และเอกชน ทั้งนี้ ได้ให้ กรมการแพทย์รับผิดชอบในการพัฒนารูปแบบการวินิจฉัย การดูแลรักษาพยาบาล และการป้องกันการติดเชื้อในสถานพยาบาล โดยเริ่มจากจัดตั้งคลินิกไข้หวัด เป็นแบบ One stop service. คล้ายกับช่วงที่มีการระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 เพื่อให้ผู้ป่วยที่สงสัยว่าอาจติดเชื้อไวรัส 2019-nCoV ได้รับการวินิจฉัยเร็ว ให้การดูแลรักษาอย่างรวดเร็ว ลดแพร่กระจายเชื้อได้ และได้ให้กรมการแพทย์ประสานการดำเนินงาน กับโรงพยาบาลในสังกัดต่างๆ ได้แก่ โรงพยาบาลเครือข่ายกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (UHosNet), โรงพยาบาลสังกัดก.กลาโหม โรงพยาบาลสังกัดกทม. โรงพยาบาลเอกชน และโรงพยาบาลสังกัดก.สาธารณสุขในส่วนภูมิภาค เพื่อให้มีแนวทางดำเนินงานไปในทิศทางเดียวกัน นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า โรงพยาบาลในสังกัดกรมการแพทย์ ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ได้รับมอบนโยบายและนำสู่การปฏิบัติ โดยจัดตั้งคลินิกไข้หวัด (Fever and Acute Respiratory Infection Clinic) โดยยึดแนวทางคัดกรอง ตามแนวทางเวชปฏิบัติการวินิจฉัย การดูแลรักษา และป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล ของกรมการแพทย์ ก.สาธารณสุข ร่วมกับคณาจารย์คณะแพทยศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยต่างๆ และกล่าวถึงการจัดตั้งคลินิกไข้หวัด ว่าเพื่อให้เป็นOne Stop Service. ตั้งแต่ การคัดกรอง การวินิจฉัยตรวจรักษา จนทราบผลวินิจฉัยว่าเข้าข่ายผู้ติดเชื้อไวรัส 2019-nCoV หรือไม่ รวมถึงจัดเตรียมห้องน้ำ ห้องจ่ายยา ห้องพักคอย เป็นต้น เพื่อไม่ปะปนกับผู้ป่วยอื่นๆ ที่มารับบริการ เป็นการลดการแพร่ระบาดของโรคได้ระดับหนึ่ง และหากจำเป็นต้องรับการรักษาในโรงพยาบาลดำเนินการตามแนวทางเวชปฏิบัติฯ ข้างต้น ทั้งนี้ กรมการแพทย์จะเผยแพร่ต้นแบบของ คลินิกไข้หวัด ให้กับสถานพยาบาล ให้กับโรงพยาบาลในสังกัดต่างๆ ทุกแห่งต่อไป