วันที่ 10 ก.พ.63 นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)เผยว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีงบประมาณ 2563 ไม่เป็นโมฆะ และให้สภาโหวตใหม่ในวาระ 2-3 ถือเป็นเรื่องที่ดี ทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ โดยคาดว่าหากสภาให้ความร่วมมือ การโหวตจะใช้เวลาไม่นาน เพียงวันเดียวก็จะสามารถโหวตผ่านได้ งบประมาณปี 2563 จะสามารถเริ่มใช้ได้ภายในเร็ว ๆ นี้ จากเดิมที่กังวลว่ากฎหมายจะมีปัญหาไม่ผ่าน และสำนักงบประมาณต้องไปทำกฎหมายใหม่ ซึ่งจะเสียเวลามาก “ทุกคนต้องคิดถึงประเทศเป็นตัวตั้ง งบประมาณเป็นเรื่องสำคัญ การที่งบประมาณทั้งปีจะล้มไป เพียงเพราะคน 2-3 คน ถือเป็นเรื่องที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศอย่างมาก เรื่องทางการเมืองมีปัญหาได้ แต่ไม่ควรใช้งบประมาณของประเทศเป็นเครื่องมือ เพราะจะทำให้เกิดความเสียหาย” นายลวรณ กล่าว นายลวรณ กล่าวอีกว่า หลังจากงบประมาณ 2563 ผ่าน การเบิกจ่ายงบลงทุนใหม่ได้ โดยก่อนหน้านี้รัฐบาลได้สั่งให้ส่วนราชการ และหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีโครงการลงทุนใหม่ ๆ ให้เดินหน้าทำการจัดซื้อจัดจ้าง และก่อหนี้ผูกพันไว้แล้ว ทำให้คาดว่าเมื่องบประมาณมีผลบังคับใช้ก็จะสามารถเซ็นสัญญาและเบิกจ่าย มีเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ และจะช่วยให้เศรษฐกิจในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 ดีขึ้นกว่าที่คาดการไว้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีหลายฝ่ายกังวลว่างบประมาณจะล่าช้าไปมาก นอกจากนี้ ในส่วนของมาตรการชิมช้อปใช้เฟส 4 ยังอยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดของโครงการ โดยจะเอาผลของมาตรการชิมช้อปใช้ เฟส 1-3 ที่เพิ่งจบไปเมื่อเดือน ม.ค. 2563 มาพิจารณาและวิเคราะห์ว่าควรให้ความช่วยเหลือประชาชนกลุ่มไหน และช่วยเหลืออย่างไรเพิ่มเติม ส่วนการแจกเงินหรือไม่ ยังไม่ได้มีการพูดถึง เพราะต้องดูกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจนก่อน โดยการเดินหน้ามาตรการชิมช้อปใช้ เฟส 4 จะทำควบคู่ไปกับการเปิดลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยเพื่อรับสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ ที่คาดว่าจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาได้ภายในเดือน มี.ค. 2563 หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดย สศค. กำลังพิจารณาอยู่ว่าเรื่องไหนจะเสนอให้ ครม. พิจารณาก่อนกัน