บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ในสัปดาห์นี้ (วันที่ 10 – 14 กุมภาพันธ์ 2563) บรรยากาศตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาการซื้อขายมีความผันผวน โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศ ที่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาต่างพาเหรดปิดติดลบกันทั่วหน้า เนื่องจากยังมีความกังวนกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอนโดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จากจีน ล่าสุดตัวเลขของผู้ที่ได้รับเชื้อไวรัสโคโรนายังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ "ถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยยังคงมีความไม่แน่ใจในรายละเอียดของคำตัดสินศาลรัฐธรรมนูญ หลังศาลฯมีมติเสียงข้างมากให้สภาผู้แทนราษฎรดำเนินการให้ถูกต้องในการขั้นตอนการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 เฉพาะในวาระที่ 2 และวาระที่ 3 ซึ่งก็ต้องรอดูว่าจากนี้ไปจะมีการยื่นญัตติได้เมื่อใด และใช้ระยะเวลากี่วัน หากมองขั้นตอนเดิมที่เคยทำมาก็จะใช้เวลาประมาณครึ่งเดือน แต่ก็ดีกว่าต้องไปเริ่มนับหนึ่งใหม่ จากคำสั่งศาลฯดูแล้วการเบิกจ่ายงบประมาณปี 63 ก็ไม่น่าจะล่าช้ามาก ด้านตลาดหุ้นต่างประเทศยังต้องติดตามสถานการณ์ไวรัสโคโรนา ซึ่งในวันที่ 10 ก.พ.นี้จะต้องติดตามดูว่าจีนจะยังให้หยุดต่อเนื่องอีกหรือไม่ หลังครบกำหนดการขยายวันหยุดช่วงเทศกาลตรุษจีนของจีนแล้ว ถ้าจีนยังให้หยุดต่อก็อาจสะท้อนว่าสถานการณ์ไวรัสโคโรนายังอาจจะแพร่ระบาดอยู่ ซึ่งเศรษฐกิจคงจะได้รับผลกระทบไปด้วย แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายถนอมศักดิ์ กล่าวว่า ตลาดฯยังปรับตัวขึ้นได้ลำบาก พร้อมให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่จะออกมามากขึ้น แม้ว่างบฯไม่น่าจะดี โดยให้แนวรับ 1,500 จุด ส่วนแนวต้าน 1,550-1,555 จุด ด้านสถานการณ์ค่าเงินบาท "นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา" กล่าวว่า เงินบาทค่อนข้างนิ่งผลคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญไม่ค่อยมีผลต่อค่าเงินบาทเท่าไหร่นัก แต่จะมีผลต่อตลาดหุ้นมากกว่า โดยคาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์หน้าระหว่าง 31.20 - 31.35 บาท/ดอลลาร์