วันที่ 7 ก.พ. นายธวัชชัย ลัดกลูด ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 (อุดรธานี) กรมป่าไม้ ในฐานะประธานคณะทำงานตรวจสอบที่ดิน น.ส.ปารีณา เผยว่า ช่วงเช้าวันที่ 12 ก.พ. จะลงไปดูพื้นที่เกิดเหตุที่กรมป่าไม้ได้แจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.ปารีณา ใน 4 ข้อหา คือ กระทำผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 54 กระทำผิด พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 กระทำผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9 กระทำผิด พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 มาตรา 97 ตามที่อธิบดีกรมป่าไม้มอบหมาย และตามที่ตำรวจ บก.ปทส. เชิญให้ไปชี้จุดเกิดเหตุ เป็นไปตามกระบวนการสอบสวนดำเนินคดี และจะไปดูพื้นที่ที่นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) ไปแจ้งความกล่าวหานายทวี ไกรคุปต์ บิดา น.ส.ปารีณา บุกรุกที่ดินรัฐพื้นที่หมู่ 9 ต.ท่าเคย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ด้วย ถ้าพบการกระทำผิด จะแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติม นายธวัชชัยกล่าวต่อว่า ส่วนความคืบหน้าการดำเนินคดีการครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.โดยมิชอบกว่า 682 ไร่ ของ น.ส.ปารีณา ที่กรมป่าไม้ได้ทำหนังสือสอบถามความเห็นไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกาใน 2 เรื่องคือ พื้นที่ดังกล่าวยังเป็นป่าสงวนแห่งชาติอยู่หรือไม่ และพื้นที่ดังกล่าวพ้นสภาพจากป่าสงวนฯ ไปเป็นพื้นที่เกษตรกรรมแล้วหรือไม่นั้น ดูจากแนวโน้มจากการที่ตนได้เข้าไปเป็นตัวแทนกรมป่าไม้ หารือกับคณะกรรมการกฤษฎีกาพบว่าน่าจะต้องดำเนินคดีกับ น.ส.ปารีณา เพิ่มเติม แต่จะดำเนินคดีเฉพาะพื้นที่ที่ น.ส.ปารีณา ได้ทำประโยชน์ในที่ดิน เช่น ทำเล้าไก่ ทำรั้ว ส่วนพื้นที่ที่เหลือเป็นของ ส.ป.ก.อยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับว่าจะนำไปจัดสรรให้เกษตรกร หรือจัดสรรที่ดินให้ผู้ยากไร้ หากได้ข้อสรุปที่ชัดเจนจากคณะกรรมการกฤษฎีกาอย่างหนึ่งอย่างใดออกมา กรมป่าไม้พร้อมปฏิบัติทันที