วันที่ 7 ก.พ.ที่ดีเสไอ ทีมโฆษกดีเอสไอ เผยว่าปัจจุบันเทคโนโลยีมีความเจริญก้าวหน้าเป็นอย่างมาก ทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ตได้ทุกที่ทุกเวลา และสามารถสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ได้จากทั่วทุกมุมโลก ส่งผลให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือการซื้อขายสินค้าออนไลน์เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว กลุ่มมิจฉาชีพจึงได้อาศัยความเปลี่ยนแปลงและความเจริญก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการติดต่อสื่อสารดังกล่าว มาเป็นเครื่องมืออำนวยความสะดวกหรือถูกใช้เป็นส่วนหนึ่งของการกระทำความผิด ล่าสุด เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2563 กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดย กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ ได้รับการประสานจาก บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กรณีมีมิจฉาชีพสร้างกลอุบายรูปแบบใหม่ หลอกลวงประชาชนให้หลงเชื่อ โดยกลุ่มมิจฉาชีพมีลักษณะพฤติการณ์ดังต่อไปนี้ กรณีที่ 1 มิจฉาชีพแอบอ้างให้ตอบแบบสอบถามทางเว็บไซต์แห่งหนึ่ง โดยระบุว่าเป็นแบบสอบถามจากบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เพื่อรับของรางวัลเป็นสมาร์ทโฟนฟรี หรือบัตรรางวัลต่าง ๆ ทั้งที่บริษัท ฯ ไม่ได้จัดกิจกรรมดังกล่าว และไม่มีนโยบายในการสำรวจแบบสอบถามผ่านทางเว็บไซต์ดังกล่าวเพื่อลุ้นรับรางวัลไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น ทำให้เกิดความเข้าใจผิดกับผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก จึงขอแจ้งเตือนไปยังผู้ใช้บริการ โปรดอย่าหลงเชื่อบุคคลที่แอบอ้างเป็นตัวแทนจากบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กรณีที่ 2 กรณีแอบอ้างว่าเป็นตัวแทนจากบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด แจ้งไปยังผู้ใช้บริการว่า มีพัสดุตกค้าง ณ ที่ทำการไปรษณีย์ โดยเรียกให้โอนเงินผ่านบัญชีธนาคารเพื่อนำพัสดุออกจากที่ทำการไปรษณีย์ จึงขอแจ้งเตือนไปยังผู้ใช้บริการ โปรดอย่าหลงเชื่อบุคคลที่แอบอ้างเป็นตัวแทนจากบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ใช้โทรศัพท์ในการหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อนำพัสดุออกจากที่ทำการไปรษณีย์ ทั้งนี้ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ไม่มีนโยบายการเรียกเก็บเงินผ่านบัญชีธนาคารเพื่อนำพัสดุออกจากที่ทำการไปรษณีย์ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น กรณีที่ 3 กรณีมิจฉาชีพสร้างเพจขายสินค้าออนไลน์หลอกลวงผู้เสียหาย โดยสนทนาซื้อขายสินค้า และเมื่อทำการตกลงซื้อขายกันเรียบร้อยจะให้ผู้เสียหายโอนเงินเพื่อชำระค่าสินค้า และมิจฉาชีพจะให้เลขพัสดุ PB190248267TH ซึ่งเมื่อตรวจสอบเลขพัสดุดังกล่าวแล้ว พบว่าไม่มีการส่งสินค้าจริง และมิจฉาชีพยังส่งเลขพัสดุเดียวกันไปยังผู้เสียหายรายอื่น ๆ เมื่อผู้เสียหายขอสำเนาหลักฐานใบนำฝากส่งสินค้า มิจฉาชีพจะไม่ให้และทำการบ่ายเบี่ยง บางรายถูกบล็อครายชื่อผู้ติดต่อหลังจากโอนเงินค่าสินค้า ซึ่งมีแนวโน้มว่า ผู้เสียหายในกรณีดังกล่าวจะมีจำนวนเพิ่มขึ้น กรณีที่ 4 มิจฉาชีพ Hack Facebook หรือ Line ของผู้เสียหาย และสวมรอยว่าเป็นญาติ พี่น้องหรือเพื่อนของผู้เสียหาย จากนั้นจะขอยืมเงินตั้งแต่หลักร้อยถึงหลายพันบาท เพื่อไม่ให้เกิดข้อพิรุธ เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อ ก็จะให้โอนเงินผ่าน QR Code ที่ผูกไว้กับ Wallet@POST ของมิจฉาชีพ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด จึงขอแจ้งเตือนประชาชนให้ตรวจสอบข้อมูลให้แน่ใจก่อนตัดสินใจโอนเงิน และขอให้ระมัดระวังในการซื้อสินค้าออนไลน์ ตลอดจนไม่ควรให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่ผู้อื่นโดยง่าย ทั้งนี้ หากประชาชนมีเบาะแสในเรื่องดังกล่าว สามารถแจ้งมายัง กรมสอบสวนคดีพิเศษ เลขที่ 128 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร 10210 หรือ ทางสายด่วน DSI Call Center หมายเลข 1202 (โทร.ฟรีทั่วประเทศ) โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษจะเก็บรักษาข้อมูลผู้แจ้งเบาะแสไว้เป็นความลับ