เมื่อเวลา 07.20 น. วันที่ 15 ส.ค. 59 พ.ต.อ.ปัตตะ มะดาวา ผกก.สภ.บาเจาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารชุด รปภ.เส้นทางให้กับคณะครู สังกัด กองร้อยปืนเล็กที่ 1 ฉก.นราธิวาส 32 ริมถนนเพชรเกษมสายนราธิวาส ปัตตานี ช่วงบริเวณหน้ามัสยิดส้มป่อย ม.4 ต.กาเยาะมาตี ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บ 2 นาย จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.เนติธร วัตตธรรม หน.กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส ร.ต.ท.พลวัฒน์ เทพษร รอง หน.ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.จ.นราธิวาส รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่ง รุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พบจุดที่คนร้ายลอบจุดชนวนระเบิด 2 จุด จุดที่ 1 ที่บริเวณริมถนนข้างไหล่ทางด้านซ้ายมือ มีหลุมลึก 1 ฟุต กว้าง 2 ฟุต และมีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็ก หนักลูก 5 ก.ก.จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร จุดที่ 2บริเวณฝั่งตรงกันข้ามกับจุดแรกซึ่งเป็นริมถนนข้างเกาะกลาง มีหลุมลึก 3 ฟุต กว้าง 4 ฟุต และมีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สปิกนิก หนัก20 ก.ก. จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร ซึ่งทั้ง 2 จุด มีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องตกกระจายเกลื่อนริมถนนและพงหญ้ารกทึบริมทาง โดยมีรถ จยย.ของเจ้าหน้าที่ทหารล้มตะแคงอยู่ จำนวน 1 คัน เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเพื่อนทหารได้นำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลบาเจาะไปก่อนหน้าแล้ว คือ 1. พันจ่าเอกองอาจ สีหบุตร หน.ชุด ถูกสะเก็ดระเบิดที่เฉี่ยวที่บริเวณหัวไหล่ขวา และแก้มขวา อาการสาหัส 2.พลทหารอรัญ พันธุ์พรม ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณริมฝีปาก เมื่อแพทย์ทำการปฐมพยาบาลในเบื้องต้น ได้ส่งรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ พันจ่าเอกองอาจ หน.ชุด ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่รวม 8 นาย ขี่และซ้อนท้ายรถ จยย. 4 คัน ออกจากฐานซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 150 เมตร เพื่อลาดตระเวนตรวจสอบความเรียบร้อยเส้นทางให้กับคณะครู และเมื่อพันจ่าเอกองอาจ หน.ชุดและผู้ใต้บังคับขี่รถ จยย.ผ่านจุดเกิดเหตุ คนร้ายที่แฝงตัวอยู่ในละแวกดังกล่าว ได้ใช้วิทยุสื่อสารจุดชนวนระเบิดที่นำไปวางซุกไว้บริเวณริมถนน จนเกิดระเบิดขึ้นทำให้ พันจ่าเอกองอาจ หน.ชุดและพลทหารอรัญ ซึ่งทำหน้าที่เป็นพลขับขี่รถ จยย.ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย เพื่อนทหารจึงได้ช่วยกันนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลบาเจาะอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งได้ทำการปิดกันพื้นที่เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ต่อมาอีกประมาณ 10 นาที ระเบิดลูกที่ 2 จึงได้เกิดระเบิดขึ้นแต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นความผิดพลาดของกลุ่มคนร้าย ที่มุ่งเป้าจะจุดชนวนระเบิดเพื่อดักสังหารเจ้าหน้าที่ที่เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ จึงทำให้เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวรอดตายไปได้อย่างหวุดหวิด
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่า เป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดี เพื่อลอบดักสังหารเจ้าหน้าที่รายวัน
พบจุดที่คนร้ายลอบจุดชนวนระเบิด 2 จุด จุดที่ 1 ที่บริเวณริมถนนข้างไหล่ทางด้านซ้ายมือ มีหลุมลึก 1 ฟุต กว้าง 2 ฟุต และมีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็ก หนักลูก 5 ก.ก.จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร จุดที่ 2บริเวณฝั่งตรงกันข้ามกับจุดแรกซึ่งเป็นริมถนนข้างเกาะกลาง มีหลุมลึก 3 ฟุต กว้าง 4 ฟุต และมีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สปิกนิก หนัก20 ก.ก. จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร ซึ่งทั้ง 2 จุด มีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องตกกระจายเกลื่อนริมถนนและพงหญ้ารกทึบริมทาง โดยมีรถ จยย.ของเจ้าหน้าที่ทหารล้มตะแคงอยู่ จำนวน 1 คัน เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเพื่อนทหารได้นำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลบาเจาะไปก่อนหน้าแล้ว คือ 1. พันจ่าเอกองอาจ สีหบุตร หน.ชุด ถูกสะเก็ดระเบิดที่เฉี่ยวที่บริเวณหัวไหล่ขวา และแก้มขวา อาการสาหัส 2.พลทหารอรัญ พันธุ์พรม ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณริมฝีปาก เมื่อแพทย์ทำการปฐมพยาบาลในเบื้องต้น ได้ส่งรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ พันจ่าเอกองอาจ หน.ชุด ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่รวม 8 นาย ขี่และซ้อนท้ายรถ จยย. 4 คัน ออกจากฐานซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 150 เมตร เพื่อลาดตระเวนตรวจสอบความเรียบร้อยเส้นทางให้กับคณะครู และเมื่อพันจ่าเอกองอาจ หน.ชุดและผู้ใต้บังคับขี่รถ จยย.ผ่านจุดเกิดเหตุ คนร้ายที่แฝงตัวอยู่ในละแวกดังกล่าว ได้ใช้วิทยุสื่อสารจุดชนวนระเบิดที่นำไปวางซุกไว้บริเวณริมถนน จนเกิดระเบิดขึ้นทำให้ พันจ่าเอกองอาจ หน.ชุดและพลทหารอรัญ ซึ่งทำหน้าที่เป็นพลขับขี่รถ จยย.ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย เพื่อนทหารจึงได้ช่วยกันนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลบาเจาะอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งได้ทำการปิดกันพื้นที่เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ต่อมาอีกประมาณ 10 นาที ระเบิดลูกที่ 2 จึงได้เกิดระเบิดขึ้นแต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นความผิดพลาดของกลุ่มคนร้าย ที่มุ่งเป้าจะจุดชนวนระเบิดเพื่อดักสังหารเจ้าหน้าที่ที่เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ จึงทำให้เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวรอดตายไปได้อย่างหวุดหวิด
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่า เป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดี เพื่อลอบดักสังหารเจ้าหน้าที่รายวัน