“วิษณุ” แจง รมต.ที่ถูกซักฟอกควรร่วมสัมมนา ส.ส.ที่พัทยา เหตุไม่คุ้นเคย ระบุ อภิปรายปั้นน้ำเป็นตัวแบบเสียหาย โดนฟ้องได้ โอด รัฐบาลชุดนี้โดนยาแรงมากกว่าในอดีต บอก สื่อถามจนตื่นเต้นแล้ว เมื่อเวลา 10.50 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการหารือกับรัฐมนตรีและตัวแทนรัฐมนตรีที่ชื่อถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ว่า เราต่างเป็นหน้าใหม่กันทั้งนั้น เป็นมือใหม่หัดขับ ฉะนั้นจึงต้องให้นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) มาช่วยอธิบายขั้นตอนธุรการ เนื่องจากเราทำไม่เป็น ซึ่งเนื้อหาที่แต่ละคนถูกอภิปรายคือ ของใครของมัน รับผิดชอบกันเอง ส่วนเรื่ององครักษ์ก็ไม่ได้มีการพูดคุยแต่อย่างใด และตนไม่ได้มอบหมายประธานวิปรัฐบาลไปดำเนินการอะไรเพิ่มเติม เขารับผิดชอบของเขาอยู่แล้ว ผู้สื่อข่าวถามว่า จะร่วมเดินทางไปสัมมนาเตรียมความพร้อมกับแกนนำวิปรัฐบาลในวันที่ 22 - 23 ก.พ.นี้ ที่พัทยาหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ยังไม่ทราบ เพราะวันที่ 24 ก.พ.ตอนเช้ามีประชุมคณะรัฐมนตรี และในช่วงบ่ายมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เมื่อถามว่า มีการระบุว่ารัฐมนตรีที่มีชื่อถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจจะเดินทางไปร่วมด้วย นายวิษณุ กล่าวว่า ตนเห็นถึงเหตุผลว่ามีความจำเป็น เพราะรัฐมนตรีทั้งหมด ยกเว้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นคนที่ไม่คุ้นเคยกับ ส.ส. เขาอาจจะสอบถามก่อนก็ได้ว่าประเด็นหรือข้อหานี้จะตอบอย่างไร เผื่อเป็นแนวทางเวลาฟังการอภิปราย เพราะ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลไม่มีสิทธิ์ซักถามผู้ที่ถูกอภิปราย นายวิษณุ กล่าวว่า การรักษาระเบียบตอนอภิปรายเป็นหน้าที่ของประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่วน ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลสามารถทำหน้าที่ประท้วงได้ เพราะมีหน้าที่แบบนี้ ไม่ถือว่าเป็นองครักษ์แต่อย่างใด ขณะเดียวกัน ฝ่ายค้านมีสิทธิ์ประท้วงหากรัฐมนตรีพูดจาวกวน เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์เคยระบุว่าจะจับตาการอภิปรายของฝ่ายค้าน หากมีอะไรเกินเลยต้องดำเนินคดี นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดา ส่วนจะมีทีมงานคอยเฝ้าในส่วนนี้หรือไม่นั้น เป็นเรื่องของแต่ละคน คอยมอนิเตอร์เอาไว้หากมีอะไรก็ฟ้องร้อง มีหลายคนแนะนำมาให้ทำอย่างนั้น แต่ของตนนั้นไม่มี เพราะมีการบันทึกเทปอยู่ เกิดมีใครมาสะกิดว่าตรงนั้นตรงนี้เสียหาย ค่อยเอามาดูทีหลังก็ได้ อย่างไรก็ตาม ทั้ง 6 คนที่ถูกอภิปราย ยกเว้น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่เป็น ส.ส.อาชีพ ที่เหลือไม่ได้เป็น ส.ส.จึงตอบโต้ตีรวนไม่เป็น รู้อย่างเดียวว่าถามมาตอบไป ตอบไม่ได้ก็บอกว่าตอบไม่ได้ มีรัฐมนตรีบางคนถามว่า ถ้าเขาถามมาแล้วตอบไม่ได้ เพราะไม่รู้ อยู่ดีๆ ฝ่ายค้านไปขุดอดีตขึ้นมา เทคนิคในสภาฯทำกันอย่างไร เรื่องนี้มีโอกาสเกิดขึ้น เพราะฝ่ายค้านสามารถยกมาได้ทั้งจักรวาล จึงมีผู้แนะนำว่าถ้าตอบไม่ได้ก็บอกไปว่าไม่ทราบ จะไปตรวจสอบและแจ้งมาภายหลัง เมื่อถามว่า การอภิปรายลักษณะใดถึงจะนำไปดำเนินคดีได้ นายวิษณุ กล่าวว่า เรื่องของแต่ละคนจะคิดอย่างไร ตนไม่พูดอะไร เพราะยังไม่รู้เขาพูดอะไร จะไปจ้องฟ้องกลับกันแล้ว ส่วนการพูดแบบปั้นน้ำเป็นตัวนั้น บางเรื่องปล่อยไปได้ แต่ถ้าปั้นจนก่อให้เกิดความเสียหาย คนฟังเชื่อ กระทบต่อชื่อเสียงเกียรติคุณ การทำงาน และเป็นภาระของประเทศชาติ อย่างนั้นต้องใช้มาตราที่ 1.คือ แก้ข่าว อย่าเพิ่งคิดถึงขั้นฟ้องร้อง และ2.การแก้ข่าวไม่พอ จึงต้องฟ้องร้อง นายวิษณุ กล่าวว่า ในภาพรวมการถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลไม่ได้กังวลเกินเหตุ แต่ต้องเตรียมทำการบ้าน เพราะตนถือไว้อย่างหนึ่งว่า การเปิดอภิปรายเป็นการตรวจสอบ ควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน รัฐบาลมีหน้าที่นั้น อาจมีถูกบ้าง ผิดบ้าง พลาดบ้าง มีเป็นธรรมดา ส่วนสภาฯไม่มีหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน แล้วจะทำตัวเป็นผู้บริหารก็ไม่ได้ แต่อำนาจที่ใหญ่กว่าคือ ควบคุมอำนาจการบริหารราชการแผ่นดิน การเปิดอภิปรายโดยใช้ยาแรง รัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายจึงควรให้ความร่วมมือ เพื่อให้การอภิปรายสมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ารัฐบาลนี้โดนยาแรงมากกว่าในอดีต มีผู้รู้มาบอกว่าคงจะแรงสำหรับการเป็นรัฐบาลสมัยแรก ซึ่งงบประมาณยังไม่ผ่านเลย เมื่อถามว่า ตื่นเต้นกับการถูกอภิปรายครั้งนี้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า “ไม่ตื่นเต้นจนตื่นเต้นแล้ว พอเห็นสื่อตื่นเต้นก็เลยรู้สึกตื่นเต้น เหมือนเข้าไปในห้องนี้เราก็ไม่ได้กลัวผี แต่พอทุกคนบอกมีผี เคยโดนมาแล้ว เราก็รู้สึกว่า เอ๊ะ อาจจะมี” เมื่อถามว่า จะมีการสอนมวยในสภาฯหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่สอน เราเป็นผู้ตอบข้อสอบ ขอย้ำอีกครั้งเราต้องให้เกียรติคนที่ถาม ถือว่าเขาถามเพื่อประชาชน ให้ไปคิดอย่างนั้น เราต้องคำนึงถึงประชาชนที่ฟังอยู่