“วันนี้ประชาชนเคลือบแคลงใจ จริงอยู่พรรคเศรษฐกิจใหม่มี ส.ส. 6 คน ผมขอโทษที่เอาเรื่องเหล่านี้มาคุย แต่วันนี้ต้องชัดเจน ทุกทีผมถนอมความรู้สึก พยายามที่จะไม่พูดอะไร ในเมื่อถ้าตัดสินใจมีมติถอนตัวจากพรรคฝ่ายค้านอย่างนี้ กฎหมายรัฐธรรมนูญระบุว่า ส.ส. ไม่จำเป็นต้องทำตามมติพรรค ผมขอยึดคำพูดและจุดยืนไม่เคยเปลี่ยนแปลง ผมจะอยู่พรรคร่วมฝ่ายค้าน แม้จะเป็นคนเดียวก็จะอยู่ ในเมื่ออุดมการณ์ไปด้วยกันไม่ได้ ขอประกาศว่าจะไม่ร่วมอุดมการณ์กับพรรคเศรษฐกิจใหม่ต่อไป ขอประกาศแยกทางเด็ดขาด” บางส่วนบางตอนจากการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการของ “มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์” ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ ที่รัฐสภา เมื่อช่วงสายของวันจันทร์ที่ 3 ก.พ.63ที่ผ่านมา แน่นอนว่าการยืนบนโพเดี้ยมเพื่อสื่อสาร กับสื่ออย่างเป็นทางการครั้งนี้ของมิ่งขวัญ ย่อมเป็นที่สนใจและถูกจับตาอย่างมาก เพราะนอกจากจะครั้งนี้มิ่งขวัญ จะต้องยืนแถลงข่าวอย่างโดดเดี่ยวเพียงลำพัง ไร้ “5 ส.ส.” ของพรรคมาห้อมล้อมเหมือนที่เคยเป็นมาแล้ว ยังเป็นการตอกย้ำให้เห็นว่า ที่สุดแล้ว “ข่าวลือ”ที่เคยสะพัดมาก่อนหน้านี้ ว่า “5ส.ส.”ของพรรคเศรษฐกิจใหม่ จะทิ้งมิ่งขวัญ ให้อยู่กับพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพียงคนเดียว เพราะความจริงที่เกิดขึ้น ก่อนหน้านี้คือการที่ “5 ส.ส.” ของพรรค นำโดย “สุภดิช อากาศฤกษ์” หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ได้มีหนังสือแจ้งไปยัง “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” ผู้นำฝ่ายค้านว่าพรรคขอถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้าน ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับที่ “6พรรคฝ่ายค้าน” นำทีมเข้ายื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เมื่อ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา ปัญหาและความวุ่นวายภายในพรรคเศรษฐกิจใหม่ บัดนี้ได้ยุติลงไปเรียบร้อยแล้ว โดยมีบทสรุปที่ว่า “5ส.ส.” ของพรรค ขอถอนตัวจากการเป็นพรรคฝ่ายค้าน และมิ่งขวัญ ประกาศขอ “ยืนหนึ่ง” ปักหลักอยู่ในฐานะ ฝ่ายค้านเพียง 1 เสียง สำหรับมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ นั้นก่อนหน้านี้เคยดำรงตำแหน่ง “หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่” นำพรรคลงสนามเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค.62 จนกวาดคะแนนเสียงมาได้ถึง 485,000 คะแนนส่งผลให้ พรรคได้ส.ส.เข้าสภาฯ ด้วยกันถึง 6 ที่นั่ง ต่อมาได้ประกาศลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคเมื่อวันที่ 23 พ.ค. 62 ให้เหตุผลว่าตนเองและลูกพรรคมีอุดมการณ์ทางการเมืองที่แตกต่างกัน แต่ยังไม่ลาออกจากความเป็น ส.ส. ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ต้องถือว่ามิ่งขวัญ เคยผ่านตำแหน่งสำคัญๆมาแล้วในสมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร โดยได้มีโอกาสเข้ามาช่วยงานของสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เมื่อครั้งเป็นรองนายกฯและรมว.คลัง เคยได้รับเลือก ให้ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการองค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย (อ.ส.ม.ท.) ปรับโฉมให้ก้าวสู่โมเดิร์นไนน์ทีวี นอกจากนี้มิ่งขวัญยังเคยดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในสมัยรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช เมื่อพรรคพลังประชาชนถูกศาลรัฐธรรนูญสั่งยุบพรรค มิ่งขวัญ จึงย้ายไปอยู่พรรคเพื่อไทย แต่สุดท้ายเจ้าตัวตัดสินใจลาออกจากพรรคเพื่อไทย เมื่อปี 2556 และขอเว้นวรรคทางการเมือง จนทนเสียงปี่ เสียงกลองในการเลือกตั้ง 24 มี.ค.62 ไม่ไหว จึงประกาศตั้งพรรคเศรษฐกิจใหม่ ขึ้นมาชูจุดขายเรื่องเศรษฐกิจ และไม่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี