พาณิชย์เผยเงินเฟ้อ ม.ค.เพิ่มร้อยละ 1.05 สูงสุดในรอบ 8 เดือน ตามราคาอาหารสดจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นช่วงตรุษจีน-ราคาพลังงานสูงขึ้นตามตลาดโลก น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า เดือนม.ค.63 มีสินค้าปรับตัวสูงขึ้น 238 รายการเช่น ข้าวสารเหนียว ข้าวสารเจ้า เนื้อหมู และไข่ไก่ ไม่เปลี่ยนแปลง 78 รายการ และปรับลดลง 106 รายการ ได้แก่ มะนาว มะเขือเทศ และผักกาดขาว อย่างไรก็ตามส่งผลให้สินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ยังสูงขึ้นร้อยละ 1.82 ตามสินค้าหมวดอาหารสดที่กลับมาขยายตัวอีกครั้งในรอบ 9 เดือน จากความต้องการสินค้าเพิ่มขึ้นในเทศกาลตรุษจีน และส่วนหนึ่งมาจากมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล รวมถึงราคาพลังงานสูงขึ้นตามราคาตลาดโลก ส่วนสินค้าหมวดอื่นๆที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มสูงร้อยละ 0.62 จากการสูงขึ้นของหมวดยานพาหนะการขนส่งและสื่อสาร และค่าโดยสารที่สูงขึ้นจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น ทั้งนี้ทำให้อัตราเงินเฟ้อเดือนม.ค.63 อยู่ที่ระดับ 102.78 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.05 สูงสุดในรอบ 8 เดือน กลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อของประเทศที่คาดการณ์ไว้ร้อยละ 0.4-1.2 โดยไตรมาสแรกคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะเฉลี่ยที่ร้อยละ 0.8 แม้แนวโน้มราคาอาหารจะปรับตัวสูงขึ้นจากภาวะภัยแล้ง แต่ปัญหาการระบาดของไวรัสโคโรนาน่าจะส่งผลให้การบริโภคชะลอตัวลงยาวถึง 2 ไตรมาสแรก รวมทั้งการเบิกจ่ายงบประมาณล่าช้า แต่ยังคาดว่าปัจจัยเหล่านี้จะปรับตัวดีขึ้นระยะต่อไป หลังจากรัฐบาลสามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้อย่างเต็มที่ และหากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกมีเสถียรภาพน่าจะสนับสนุนให้การลงทุนของเอกชนขยายตัวดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อความต้องการและกำลังซื้อในประเทศ