จ.จันทบุรีแถลงข่าวเตรียมจัดงาน Durian To Go by ประชาสัมพันธ์ผลผลิตทุเรียนคุณภาพ ต่อยอดพัฒนาทุเรียนไทยสู่สากล ขณะที่ ทุเรียนแปลงใหญ่ตามนโยบายรัฐบาล ต.ซึ้ง อ.ขลุง ขายล่วงหน้าหมดแล้วได้กิโลกรัมละ 150 บาท ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 ยัง ไม่มีผลต่อตลาดทุเรียนไทย
นายวิทูรัช ศรีนาม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วย นายชาตรี บุญนาค รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร นายดำรงฤทธิ์ หลอดคำ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเกษตรที่ 3 จังหวัดระยอง นายชลธี นุ่มหนู ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 และ นายธีรภัทร อุ่นใจ นายกสมาคมชาวสวนทุเรียนภาคตะวันออก ได้แถลงข่าว การเตรียมความพร้อมจัดงาน Durian To Go by สมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนภาคตะวันออก พัฒนาทุเรียนไทย ก้าวไกลสู่สากล ที่กำหนดจัดงานในระหว่างวันที่ 27 ถึง 29 กุมภาพันธ์ ณ อาคารขนถ่ายสินค้า องค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลผลิตทุเรียนคุณภาพ ต่อยอดพัฒนาทุเรียนไทยสู่สากล สร้างความเข้มแข็งองค์กรการเกษตร ขับเคลื่อนการผลิตและการตลาดทุเรียนให้ได้คุณภาพดี นำเสนอความรู้เทคโนโลยีและนวัตกรรมการผลิต ลดต้นทุนการผลิต เพิ่มมูลค่าผลผลิต ให้เกษตรกร รวมทั้งการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนตามนโยบายเกษตร ๔.๐ ของรัฐบาลที่มุ่งหวังสร้างรายได้อย่างยั่งยืนแก่เกษตรกร
สำหรับการแถลงข่าวครั้งนี้ นายพีรเพลิน ทับที่สุด ประธานกลุ่มแปลงใหญ่ทุเรียน ต.ซึ้ง อ.ขลุง กล่าวว่า จากการรวมกลุ่มของเกษตรกรชาวสวนทุเรียนในพื้นที่ตำบลซึ้ง จนเป็นแปลงใหญ่ทุเรียนซึ้ง ตามนโยบายของรัฐบาล มีสมาชิกรวม 47 ราย พื้นที่ 564 ไร่ สมาชิกมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อการพัฒนาผลผลิตทำให้ผลผลิตของเกษตรกรมีคุณภาพตามที่ตลาดต้องการ ส่งผลให้มีราคาดี และสามารถกำหนดราคาได้ตามที่ต้องการโดยปีนี้ทุเรียนคุณภาพพันธุ์กระดุมของสมาชิกที่จะเก็บผลผลิตได้ประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์มีผู้ประกอบการมาขอซื้อล่วงหน้าแล้วในราคากิโลกรัมละ 150 บาทผลผลิตส่วนใหญ่จะถูกส่งไปจำหน่ายในตลาดประเทศจีน คาดสามารถนำส่งผลผลิตได้ประมาณ 1,000 กว่าตัน รายได้รวมประมาณ 150 ล้านบาท สิ่งที่อยากให้หน่วยงานและรัฐบาลช่วยเหลือคือการขยายตลาดทุเรียนให้เพิ่มขึ้น หากตลาดประเทศจีนมีปัญหาจะได้มีตลาดอื่น ๆ กระจายผลผลิตได้ สถานการณ์จากเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 คงไม่มีผลต่อตลาดทุเรียนไทยเนื่องจากคาดว่าความต้องการบริโภคจะส่งผลให้เป็นโอกาสดีของทุเรียนไทย และ ผลไม้ชนิดอื่น ๆ อย่างไรก็ตามการนำเข้าผลไม้ไทยในประเทศจีนมีพื้นที่ของการนำเข้ามีหลายจุดถ้ารัฐบาลสามารถประสานกับรัฐบาลจีนสร้างความมั่นใจและเพิ่มความคล่องตัวในการกระจายผลผลิตก็จะส่งผลดีต่อเกษตรกรชาวสวนสร้างรายได้เข้าประเทศ
สำหรับการแถลงข่าวครั้งนี้ นายพีรเพลิน ทับที่สุด ประธานกลุ่มแปลงใหญ่ทุเรียน ต.ซึ้ง อ.ขลุง กล่าวว่า จากการรวมกลุ่มของเกษตรกรชาวสวนทุเรียนในพื้นที่ตำบลซึ้ง จนเป็นแปลงใหญ่ทุเรียนซึ้ง ตามนโยบายของรัฐบาล มีสมาชิกรวม 47 ราย พื้นที่ 564 ไร่ สมาชิกมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อการพัฒนาผลผลิตทำให้ผลผลิตของเกษตรกรมีคุณภาพตามที่ตลาดต้องการ ส่งผลให้มีราคาดี และสามารถกำหนดราคาได้ตามที่ต้องการโดยปีนี้ทุเรียนคุณภาพพันธุ์กระดุมของสมาชิกที่จะเก็บผลผลิตได้ประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์มีผู้ประกอบการมาขอซื้อล่วงหน้าแล้วในราคากิโลกรัมละ 150 บาทผลผลิตส่วนใหญ่จะถูกส่งไปจำหน่ายในตลาดประเทศจีน คาดสามารถนำส่งผลผลิตได้ประมาณ 1,000 กว่าตัน รายได้รวมประมาณ 150 ล้านบาท สิ่งที่อยากให้หน่วยงานและรัฐบาลช่วยเหลือคือการขยายตลาดทุเรียนให้เพิ่มขึ้น หากตลาดประเทศจีนมีปัญหาจะได้มีตลาดอื่น ๆ กระจายผลผลิตได้ สถานการณ์จากเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 คงไม่มีผลต่อตลาดทุเรียนไทยเนื่องจากคาดว่าความต้องการบริโภคจะส่งผลให้เป็นโอกาสดีของทุเรียนไทย และ ผลไม้ชนิดอื่น ๆ อย่างไรก็ตามการนำเข้าผลไม้ไทยในประเทศจีนมีพื้นที่ของการนำเข้ามีหลายจุดถ้ารัฐบาลสามารถประสานกับรัฐบาลจีนสร้างความมั่นใจและเพิ่มความคล่องตัวในการกระจายผลผลิตก็จะส่งผลดีต่อเกษตรกรชาวสวนสร้างรายได้เข้าประเทศ