กยท. จับมือ บ.ดีสโตน ผลิตยางล้อประชารัฐ ภายใต้แบรนด์ TH-TYRE หวังให้คนไทย ใช้ของดีมีคุณภาพ ราคายุติธรรม พร้อมสนองนโยบายส่งเสริมใช้ยางพาราในประเทศเพิ่มขึ้น ดร.ธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยว่า การยางแห่งประเทศไทย ในฐานะองค์กรรัฐวิสาหกิจ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รับนโยบายทั้งจากกระทรวงและรัฐบาลในการผลักดันส่งเสริมการใช้ยางพาราในประเทศให้มากยิ่งขึ้น เพราะไทยเป็นประเทศผู้ผลิตยางธรรมชาติที่ส่งออกรายใหญ่ของโลก หากมีการกระตุ้นและผลักดันให้เกิดการแปรรูปเพื่อใช้ยางพาราภายในประเทศให้มากที่สุด จะเป็นประโยชน์สูงสุดที่จะนำผลผลิตที่มีคุณภาพ มาผลิตเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ เพื่อให้คนในประเทศได้ใช้ของดีมีคุณภาพ ฉะนั้น กยท.ได้ริเริ่มโครงการยางล้อประชารัฐ เป็นหนึ่งในโครงการที่จะมีการนำยางไปใช้มากที่สุด เพราะธุรกิจยานยนต์ เป็นธุรกิจที่ใช้วัตถุดิบจากยางพาราเป็นจำนวนมาก ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ไทยมีผลผลิตยางประมาณ 4.47 ล้านตัน สามารถนำไปใช้ภายในประเทศประมาณ 0.6 ล้านตัน คิดเป็นร้อยละ 13.42 ของผลผลิตทั้งหมด และยางส่วนใหญ่ถูกใช้ในการผลิตยางยานพาหนะ 0.34 ล้านตัน คิดเป็นร้อยละ 56.48 ของปริมาณยางทั้งหมด ในขณะเดียวกัน แนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ ภายในประเทศจะมีความเติบโตขึ้นในช่วงปี 2560 เนื่องมาจาก ตลาดส่งออกมีการขยายสู่ภูมิภาคอาเซียนตามแผนการส่งออกรถอีโคคาร์จากเงื่อนไขการขอรับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจโลกจะดีขึ้น ดังนั้น หากมีการนำผลผลิตยาง ไปผลิตยางล้อรถยนต์นั่งที่มีส่วนผสมของยางพาราเพิ่มขึ้น และที่สำคัญ ได้มาตรฐานคุณภาพในราคาต่ำกว่าท้องตลาด จะเป็นโอกาสในการนำวัตถุดิบที่ผลิตได้ในประเทศ เพิ่มรายได้ให้กับประเทศชาติมากขึ้นด้วยมีการส่งออกวัตถุดิบยางประเภทต่างๆ เพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรม ผู้ว่าการ กยท. กล่าวว่า กยท. ได้รับความร่วมมือในการผลักดันการแปรรูปใช้ยางในประเทศในรูปแบบล้อยางกับบริษัทผลิตยางล้อจากเอกชน นั่นคือ “ดีสโตน” ซึ่งเป็นแบรนด์ยางล้อของไทยที่ส่งขายทั่วโลก ทั้งในแถบเอเชียและยุโรป ได้รับความเชื่อมั่นในมาตรฐานด้านความปลอดภัย โดยโครงการดังกล่าว จะผลิตยางล้อภายใต้แบรนด์ TH-TYRE (ไทย-ไทเอ่อร์) จะเป็นยางล้อรถจากวัตถุดิบชั้นเยี่ยมของชาวสวนยางไทย ผลิตจากบริษัทคนไทยที่มีมาตรฐาน คุณภาพสากล และเป็นผลิตภัณฑ์ยางเกิดจากการบูรณาการจากองค์กร 3 ภาคส่วน ได้เเก่ ภาครัฐ ภาคเอกชน เเละ ภาคเกษตรกร “แบรนด์ TH-TYRE จะผลิตล้อยางที่สามารถรองรับความต้องการของผู้ใช้ยานพาหนะ 3 ประเภทด้วยกัน ประกอบด้วย ยางล้อรถมอเตอร์ไซค์ (2 ล้อ) และ ยางล้อรถยนต์ ซึ่งตลาดที่รองรับได้แก่ รถแท็กซี่ รถตู้ รถยนต์ทั่วไป (4 ล้อ) จะผลิตยางประเภทละ 2 รุ่น ซึ่งสิ่งสำคัญ คือ ผู้บริโภคที่เลือกใช้ยางแบรนด์ไทย-ไทเอ่อร์จะได้ใช้ยางล้อที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล และที่สำคัญ ราคาเป็นถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป เพราะเราใช้วัตถุดิบ และกระบวนการผลิตโดยคนไทย ภายในประเทศเราเอง ผู้สนใจยางแบรนด์ไทย-ไทเอ่อร์ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ กยท.ทุกสาขาทั่วประเทศ และ ตัวแทนจำหน่ายยางดีสโตน กว่า 400 สาขาทั่วประเทศเช่นกัน” ดร.ธีธัช กล่าว