"อุตตม"เผยคลังชงมาตรการภาษีอุ้มท่องเที่ยวเข้า ครม.พรุ้งนี้(4 ก.พ.)พร้อมอัดแพคเกจดูแลเศรษฐกิจเพิ่มหากมีความจำเป็น ขณะที่ชิมช้อปใช้เฟส 4 ขอดูรายละเอียดอีกรอบ นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังเตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ในวันพรุ่งนี้(4 ก.พ.)พิจารณามาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว หลังจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาในช่วงที่ผ่านมา โดยจะเป็นการสนับสนุนทั้งด้านอุปสงค์และอุปทานเช่น ให้ผู้ประกอบการสามารถนำค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงโรงแรม สถานที่ มาหักลดหย่อนภาษีได้ และมีสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำจากสถาบันการเงินให้กู้เพื่อปรับปรุงกิจการเพิ่มเติมด้วย โดยรายละเอียดขอให้รอผ่านการพิจารณาของ ครม.ก่อนจึงจะมีการเปิดเผยต่อไป ทั้งนี้ได้มีการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเห็นตรงกันว่ามาตรการดังกล่าวจะมีส่วนสำคัญในการดูแลภาคการท่องเที่ยวของไทยในขณะนี้ และจะส่งผลดีกับเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยเฉพาะการจ้างงาน โดยชุดมาตรการดังกล่าวจะเน้นดูแล และการกระตุ้นให้เกิดการลงทุน รวมทั้งจะมีการปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบิน เนื่องจากที่ผ่านมามีข้อเสนอให้กระทรวงการคลังพิจารณาเรื่องนี้มาโดยตลอด ซึ่งหน่วยงานที่รับผิดชอบกำลังพิจารณาอยู่ แต่จากปัจจัยเสี่ยงเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงใหม่ที่กำลังส่งผลกระทบภาคการท่องเที่ยวและภาคเศรษฐกิจของประเทศ จึงจำเป็นต้องพิจารณาในส่วนนี้ด้วย ส่วนกรณีที่มีข้อเรียกร้องให้ยกเลิกฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวจีนนั้น คงต้องไปสอบถามจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึงผู้เกี่ยวข้อง แต่เท่าที่ทราบขณะนี้ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ขณะที่ความคืบหน้าของมาตรการชิมช้อปใช้ เฟส 4 คงยังไม่ได้นำเสนอเข้าที่ประชุม ครม. เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการพิจารณาในรายละเอียดให้รอบคอบก่อน อย่างไรก็ตามจากการประเมินผลของมาตรการชิมช็อปใช้ ถือว่าบรรลุเป้าหมายในการใช้งบประมาณ 1.9 หมื่นล้านบาท เพราะสามารถช่วยดูแลเศรษฐกิจภายในประเทศให้หมุนเวียนได้ผ่านการกระตุ้นการใช้จ่าย ผู้ประกอบการรายกลางและรายเล็กในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศสามารถเดินได้ และยังเป็นผลดีกับภาคการท่องเที่ยวด้วย อีกทั้งยังสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการด้วยว่า ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกกำลังมีปัญหาและส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจไทยนั้น รัฐบาลได้มีมาตรการที่เหมาะสมออกมาดูแล โดยแม้เศรษฐกิจโลกจะมีแนวโน้มดีขึ้น แต่การค้าขายของโลกยังวางใจไม่ได้ ยังต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าความต้องการในระดับโลกจะกลับมา อีกทั้งยังมีปัจจัยเสี่ยงใหม่คือ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา และความล่าช้าของงบประมาณปี 2563 ทั้งหมดนี้ชี้ถึงความจำเป็นของรัฐบาลที่ต้องพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เหมาะสมออกมาเพิ่มเติม