บช.ปส.จับกุมผู้ค้ายาเสพติดรวม10 คดี ยึดของกลางยาบ้า 1,074,000 เม็ด ไอซ์ 2 กก.ยาอี 2,260 เม็ด และเฮโรอีน 15 กก.
วันที่ 3 ก.พ.63 พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผู้ช่วยผบ.ตรและ พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส.แถลงผลการจับกุมและสกัดกั้นผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญหลายคดีด้วยกัน
คดีแรก จับกุมนางสาววิรสา อินทร์รักษา อายุ 37 ปี และนายชีเนดุ คริสเตียน โอเคเค (MR.CHINAEDU CHRISTIAN OKKE) สัญชาติไนจีเรีย อายุ 26 ปี พร้อมของกลาง ยาอี 7,860 เม็ด โดยจับกุมผู้ต้องหาที่ 1 ได้ที่ทำการไปรษณีย์บางละมุง ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี และจับกุมผู้ต้องหาที่ 2 ได้ที่ร้านอาหารในห้างสรรพสินค้าย่านบางแค ถนนเพชรเกษม แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค
สืบเนื่องจากตำรวจได้รับแจ้งว่า พบพัสดุต่างประเทศต้องสงสัย ถูกส่งจากต้นทางประเทศโปรตุเกส ปลายทางจังหวัดชลบุรี จึงร่วมกันตรวจสอบภายในกล่องพัสดุดังกล่าวพบยาอีซุกซ่อนอยู่ในกล่องป้ายไฟ LED 2,260 เม็ด จึงได้ทำการตรวจยึด และต่อมาได้ขยายผลจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งสอง และยึดยาอีเพิ่มเติมอีก 5,600 เม็ด ที่ซุกซ่อนในกล่องไดร์เป่าผมและเครื่องชงกาแฟ ซึ่งเป็นพัสดุระหว่างประเทศที่อยู่ระหว่างการขนส่งถึงผู้ต้องหา
คดีที่ 2 เจ้าหน้าที่จับตายนายสละ ตองแช อายุ 22 ปี และจับกุมนายอาหมื่อ ตองแช อายุ 42 ปี สัญชาติเมียนมา พร้อมของกลาง ยาบ้า 400,000 เม็ด และไอซ์ 2 กิโลกรัม ถูกจับกุมที่บ้านหนองแหวน หมู่ 4 ตพบลแม่จัน อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย
โดยตำรวจสืบทราบว่ามีเครือข่ายค้ายาเสพติดกลุ่ม นายสละ ตองแช ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในประเทศเพื่อนบ้าน จะลักลอบลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากจากพื้นที่อำเภอแม่ฟ้าหลวง เข้ามาพักคอยในพื้นที่ อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย เพื่อลำเลียงเข้าสู่พื้นที่ตอนในอีกทอดหนึ่ง จึงตรวจสอบติดตามจนทราบว่า นายสละ ตองแช ขับรถยนต์กระบะมาตามถนนพหลโยธินจาก อำเภอแม่ฟ้าหลวง มุ่งหน้า อำเภอแม่จัน โดยใช้เส้นทางรองเพื่อหลบเลี่ยงด่านตรวจ และมีนายอาหมื่อ ตองแช ขับขี่รถจักรยานยนต์ติดตามเพื่อคุ้มกัน เมื่อตำรวจแสดงตัวขอตรวจค้น นายสละ ตองแช ได้วิ่งหลบหนีลงจากรถยนต์และใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้ จึงเกิดการปะทะกันเป็นเหตุให้ นายสละ ตองแช เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เมื่อทำการตรวจค้นภายในรถยนต์กระบะ พบยาบ้าและไอซ์ของกลาง บรรจุในกระสอบพลาสติกสีฟ้า ซุกซ่อนอยู่ภายในห้องโดยสาร และสามารถจับกุมนายอาหมื่อ ตองแช ไว้ได้ขณะพยายามขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี
คดีที่ 3 จับกุม นายชิฟู เยเบียน อายุ 21 ปี สัญชาติเมียนมา พร้อมของกลาง ยาบ้า 674,000 เม็ด จับกุมได้ที่บ้านหนองน้ำขุ่น หมู่ 1 ตำบลแม่ฟ้าหลวง อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย โดยตำรวจสืบทราบว่า จะมีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาตามเส้นทางธรรมชาติตามแนวชายแดนพื้นที่อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย เพื่อส่งให้กับกลุ่มเครือข่าย จึงสืบสวนหาข่าวและตรวจสอบเพื่อสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดดังกล่าว จนพบว่าจะมีการขนลำเลียง
จึงวางกำลังยังจุดเป้าหมาย และพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยประมาณ 6 ถึง 7 คน สะพายกระสอบเดินสลับวิ่งอยู่ข้างถนน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น กลุ่มบุคคลต้องสงสัยใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงใส่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมหลายนัดจึงเกิดการปะทะกัน จากนั้นกลุ่มบุคคลต้องสงสัยได้วิ่งหลบหนีเข้าไปในป่า ต่อมาชุดจับกุมได้ร่วมกันตรวจสอบพื้นที่ พบยาบ้ส 674,000 เม็ด บรรจุอยู่ในกระสอบและกระเป๋าสะพาย ถูกโยนทิ้งไว้ตามเส้นทางที่หลบหนี ชุดจับกุมได้ร่วมกันปิดล้อมพื้นที่ดังกล่าวและใกล้เคียง จนสามารถจับกุม นายชิฟู เยเบียง ได้ในเวลาต่อมา
คดีที่ 4 จับกุม นายบวรวัสส์ จรัสศิริภักดี และนางสาวอลินนันท์ หอมทรัพย์ พร้อมของกลาง ยาอี 130 เม็ด , เมทิลลีนไดออกซีเมทแอมเฟตามีน 50 กรัม , LSD 58 ชิ้น , โคเคน 1.5 กรัม และกัญชา 5 กิโลกรัม โดยถูกจับกุมได้ที่อาคารชุดแห่งหนึ่ง ในซอยสุขุมวิท 31 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา หลังจากตำรวจได้รับแจ้งว่า พบพัสดุต่างประเทศต้องสงสัยถูกส่งต้นทางจากประเทศเยอรมนี จึงตรวจสอบภายในกล่องพัสดุดังกล่าวพบยาอีซุกซ่อนอยู่ในลำโพง BLUETOOTH จำนวน 130 เม็ด จากนั้นได้ขยายผลจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองซึ่งมีพฤติกรรมเป็นเอเย่นต์ค้ายาเสพติดที่สั่งนำเข้ามาจากต่างประเทศ และเมื่อตรวจค้นห้องพักก็พบยาเสพติดอีกหลายรายการ
คดีที่ 5 จับกุม นายลี ชุน ฮุย อายุ 39 ปี และนายลี ชัย ปิง อายุ 39 ปี สัญชาติจีน-ไต้หวัน พร้อมของกลาง เฮโรอีน น้ำหนัก 15 กิโลกรัม จับกุมได้ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
โดยก่อนหน้านี้ ตำรวจปราบปรามยาเสพติดได้รับการประสานจากตำรวจไต้หวันว่ามีขบวนการลักลอบขนยาเสพติดเฮโรอีนจากไทยไปไต้หวัน จึงสืบสวนติดตามจนพบว่ามีกลุ่มนักค้ายาเสพติดข้ามชาติชาวไต้หวันเดินทางเข้ามาเพื่อทำการลักลอบขนยาเสพติด จึงเฝ้ารอจนผู้ต้องหามายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และจับกุมได้พร้อมของกลาง เฮโรอีนที่ซุกซ่อนไว้ในกระเป๋าเดินทาง ขณะเตรียมเดินทางไปประเทศไต้หวันที่บริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
คดีที่ 6 จับกุม นายหยีเวิ่ง ลุงชัย อายุ 35 ปี และนายอภิชาติ กะรัตน์ อายุ 37 ปี พร้อมของกลาง ไอซ์ น้ำหนัก 3.25 กิโลกรัม และยาบ้า 53,000 เม็ด โดยตำรวจได้สืบสวนติดตามกลุ่มเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดที่มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดและนำเข้ามาเก็บในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล เพื่อรอจำหน่ายให้กับลูกค้า จากสืบสวนทราบว่าจะมีการเจรจาซื้อขายยาเสพติดกันบริเวณห้างสรรพสินค้า ย่านบางกะปิ โดยนัดส่งยาเสพติดในซอยลาดพร้าว 130 จึงได้วางแผนการสืบสวนและเข้าทำการจับกุมผู้ต้องได้ 2 คน พร้อมไอซ์ของกลาง 3 กิโลกรัม จากนั้นขยายผลการจับกุมตรวจค้นพบยาบ้าจำนวน 53,000 เม็ด และไอซ์ อีก น้ำหนักประมาณ 250 กรัม ที่ห้องพักของผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ภายในซอยนวมินทร์ 42 ถนนนวมินทร์ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม
คดีที่ 7 ตำรวจตรวจยึดกัญชาอัดแท่ง น้ำหนัก 1,100 กิโลกรัม ได้ที่บริเวณสี่แยกไฟแดงบ้านสามพร้าว ถนนสายเลี่ยงเมืองอุดรธานี ตำบลหนองบัว อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ต่อเนื่อง บริเวณถนนมิตรภาพ ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 91 - 92 ตำบลห้วยสามพาด อำเภอประจักษ์ศิลปาคม จังหวัดอุดรธานี หลังสืบสวนทราบว่าจะมีเครือข่ายค้ายาเสพติดที่ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากจังหวัดชายแดน สปป.ลาว ไปยังพื้นที่ตอนในและตอนใต้ของไทย โดยเครือข่ายดังกล่าวจะมีท้าวคำ เป็นตัวการใหญ่คอยสั่งการจาก สปป.ลาว ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้จับกุมบุคคลในเครือข่ายนี้ไปหลายคดี แต่เนื่องจากมีผลประโยชน์และค่าจ้างจำนวนมาก จึงได้มีทีมลักลอบลำเลียงหน้าใหม่ขึ้นมาเป็นตัวตายตัวแทนอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งในวันเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่าจะมีกลุ่มนักค้ายาเสพติดใช้รถกระบะลักลอบลำเลียงยาเสพติด จึงไปเฝ้าสังเกตการณ์ตามเส้นทาง จนกระทั่งพบรถคันดังกล่าว ขับขี่มาตามถนนมิตรภาพ หนองคาย-อุดรธานี เมื่อรถยนต์เป้าหมายขับขี่มา สี่แยกไฟแดง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แสดงตัวและขอตรวจค้นแต่ผู้ขับขี่ได้ขับรถชนรถยนต์ของเจ้าหน้าที่และขับรถหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ชุดตรวจยึดได้ติดตามไป พบรถยนต์คันเป้าหมายเสียหลักตกลงข้างทาง ผู้ขับขี่ได้อาศัยความมืดหลบหนีเข้าป่าอ้อยไป จึงตรวจยึดได้เพียงของกลาง
คดีที่ 8 จับกุม นายจรัญ อุดาหน อายุ 29 ปี พร้อมของกลาง ไอซ์ น้ำหนัก 4 กิโลกรัม โดยตำรวจสืบทราบว่าจะมีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดจะนำยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีนำยาเสพติดมาส่งให้กับลูกค้าที่ ปั๊มน้ำมัน ปตท.ลุงเท่ง ถนนเพชรเกษม ตำบลดอนชุนห้วย อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ตำรวจจึงได้วางกำลังซุ่มสังเกตการณ์ในจุดนัดหมาย จนพบนายจรัญขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาภายในปั๊มน้ำมัน ลักษณะท่าทางมีพิรุธน่าสงสัย จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นและพบของกลาง โดยนายจรัญรับสารภาพว่านำยาเสพติดมาส่งให้กับลูกค้า แต่ฝ่ายลูกค้าที่มารับของไหวตัวทันไม่มารับของกลางตามนัด
คดีที่ 9 จับกุม นายบี บัววัน , นายเรืองศักดิ์ แก้วสด , นางสาวสุธาทิพย์ อ่อนวอน และนางสาวพัชรี รุ่งระวี พร้อมของกลาง ยาบ้า 100,000 เม็ด โดยตำรวจสืบทราบว่าจะมีการการขนส่งและลำเลียงยาเสพติดจากจังหวัดเชียงราย ไปส่งให้กับลูกค้าในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยจะใช้เส้นทางถนนพหลโยธิน จังหวัดนครสวรรค์-กำแพงเพชร - ตาก - ลำปาง -พะเยา - เชียงราย เข้าสู่พื้นที่ตอนใน จึงวางแผนจับกุมได้ที่ริมถนนพหลโยธิน ตำบลแม่ปืม อำเภอเมืองพะเยา
พบว่าผู้ต้องหาได้ซุกซ่อนยาบ้าในกระเป๋าเป้นำไปวางไว้บริเวณโคนเสาแถวสถานที่เกิดเหตุ
คดีที่ 10 จับกุมนางสาวทิพวรรณ กงทอง , นายชนนิกานต์ พันนุช , นายปกรณ์ เต็มศิริพงศ์ และนายวารุตน์ กลิ่นเกษร พร้อมของกลาง ไอซ์ น้ำหนัก 2 กรัม , ยาอี 70 เม็ด , เคตามีนชนิดเกล็ด จำนวน 123 กรัม และชนิดน้ำ จำนวน 60 ขวด
และทรัพย์สินอื่นๆ อีกหลายรายการ รวมมูลค่าประมาณ 3.6 ล้านบาท โดยจับกุมได้ที่หอพักแห่งหนึ่ง ในถนนบางแสนสาย 4 ตำบลแสนสุข อำเภอเมืองชลบุรี
สืบเนื่องจาก ตำรวจทราบว่ามีกลุ่มนักค้ายาเสพติดที่ลักลอบจำหน่ายในสถานบริการต่างๆ ในจังหวัดชลบุรี จึงได้ทำการสืบสวนและสะกดรอยผู้ต้องสงสัยมาเป็นระยะเวลาเกือบ 3 เดือน จนทราบพฤติการณ์ว่าจะมีการนำเอายาเสพติดหลายประเภทมาวางไว้ตามสถานที่เปลี่ยวเพื่อส่งให้ลูกค้ามารับจึงได้วางแผนเข้าทำการติดตามสะกดรอยและวางกำลังตามเส้นทางเพื่อจับกุม จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งสี่คน และได้ทำการตรวจยึดทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติดหลายรายการ
สืบเนื่องจากตำรวจได้รับแจ้งว่า พบพัสดุต่างประเทศต้องสงสัย ถูกส่งจากต้นทางประเทศโปรตุเกส ปลายทางจังหวัดชลบุรี จึงร่วมกันตรวจสอบภายในกล่องพัสดุดังกล่าวพบยาอีซุกซ่อนอยู่ในกล่องป้ายไฟ LED 2,260 เม็ด จึงได้ทำการตรวจยึด และต่อมาได้ขยายผลจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งสอง และยึดยาอีเพิ่มเติมอีก 5,600 เม็ด ที่ซุกซ่อนในกล่องไดร์เป่าผมและเครื่องชงกาแฟ ซึ่งเป็นพัสดุระหว่างประเทศที่อยู่ระหว่างการขนส่งถึงผู้ต้องหา
คดีที่ 2 เจ้าหน้าที่จับตายนายสละ ตองแช อายุ 22 ปี และจับกุมนายอาหมื่อ ตองแช อายุ 42 ปี สัญชาติเมียนมา พร้อมของกลาง ยาบ้า 400,000 เม็ด และไอซ์ 2 กิโลกรัม ถูกจับกุมที่บ้านหนองแหวน หมู่ 4 ตพบลแม่จัน อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย
โดยตำรวจสืบทราบว่ามีเครือข่ายค้ายาเสพติดกลุ่ม นายสละ ตองแช ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในประเทศเพื่อนบ้าน จะลักลอบลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากจากพื้นที่อำเภอแม่ฟ้าหลวง เข้ามาพักคอยในพื้นที่ อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย เพื่อลำเลียงเข้าสู่พื้นที่ตอนในอีกทอดหนึ่ง จึงตรวจสอบติดตามจนทราบว่า นายสละ ตองแช ขับรถยนต์กระบะมาตามถนนพหลโยธินจาก อำเภอแม่ฟ้าหลวง มุ่งหน้า อำเภอแม่จัน โดยใช้เส้นทางรองเพื่อหลบเลี่ยงด่านตรวจ และมีนายอาหมื่อ ตองแช ขับขี่รถจักรยานยนต์ติดตามเพื่อคุ้มกัน เมื่อตำรวจแสดงตัวขอตรวจค้น นายสละ ตองแช ได้วิ่งหลบหนีลงจากรถยนต์และใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้ จึงเกิดการปะทะกันเป็นเหตุให้ นายสละ ตองแช เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เมื่อทำการตรวจค้นภายในรถยนต์กระบะ พบยาบ้าและไอซ์ของกลาง บรรจุในกระสอบพลาสติกสีฟ้า ซุกซ่อนอยู่ภายในห้องโดยสาร และสามารถจับกุมนายอาหมื่อ ตองแช ไว้ได้ขณะพยายามขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี
คดีที่ 3 จับกุม นายชิฟู เยเบียน อายุ 21 ปี สัญชาติเมียนมา พร้อมของกลาง ยาบ้า 674,000 เม็ด จับกุมได้ที่บ้านหนองน้ำขุ่น หมู่ 1 ตำบลแม่ฟ้าหลวง อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย โดยตำรวจสืบทราบว่า จะมีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาตามเส้นทางธรรมชาติตามแนวชายแดนพื้นที่อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย เพื่อส่งให้กับกลุ่มเครือข่าย จึงสืบสวนหาข่าวและตรวจสอบเพื่อสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดดังกล่าว จนพบว่าจะมีการขนลำเลียง
จึงวางกำลังยังจุดเป้าหมาย และพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยประมาณ 6 ถึง 7 คน สะพายกระสอบเดินสลับวิ่งอยู่ข้างถนน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น กลุ่มบุคคลต้องสงสัยใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงใส่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมหลายนัดจึงเกิดการปะทะกัน จากนั้นกลุ่มบุคคลต้องสงสัยได้วิ่งหลบหนีเข้าไปในป่า ต่อมาชุดจับกุมได้ร่วมกันตรวจสอบพื้นที่ พบยาบ้ส 674,000 เม็ด บรรจุอยู่ในกระสอบและกระเป๋าสะพาย ถูกโยนทิ้งไว้ตามเส้นทางที่หลบหนี ชุดจับกุมได้ร่วมกันปิดล้อมพื้นที่ดังกล่าวและใกล้เคียง จนสามารถจับกุม นายชิฟู เยเบียง ได้ในเวลาต่อมา
คดีที่ 4 จับกุม นายบวรวัสส์ จรัสศิริภักดี และนางสาวอลินนันท์ หอมทรัพย์ พร้อมของกลาง ยาอี 130 เม็ด , เมทิลลีนไดออกซีเมทแอมเฟตามีน 50 กรัม , LSD 58 ชิ้น , โคเคน 1.5 กรัม และกัญชา 5 กิโลกรัม โดยถูกจับกุมได้ที่อาคารชุดแห่งหนึ่ง ในซอยสุขุมวิท 31 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา หลังจากตำรวจได้รับแจ้งว่า พบพัสดุต่างประเทศต้องสงสัยถูกส่งต้นทางจากประเทศเยอรมนี จึงตรวจสอบภายในกล่องพัสดุดังกล่าวพบยาอีซุกซ่อนอยู่ในลำโพง BLUETOOTH จำนวน 130 เม็ด จากนั้นได้ขยายผลจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองซึ่งมีพฤติกรรมเป็นเอเย่นต์ค้ายาเสพติดที่สั่งนำเข้ามาจากต่างประเทศ และเมื่อตรวจค้นห้องพักก็พบยาเสพติดอีกหลายรายการ
คดีที่ 5 จับกุม นายลี ชุน ฮุย อายุ 39 ปี และนายลี ชัย ปิง อายุ 39 ปี สัญชาติจีน-ไต้หวัน พร้อมของกลาง เฮโรอีน น้ำหนัก 15 กิโลกรัม จับกุมได้ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
โดยก่อนหน้านี้ ตำรวจปราบปรามยาเสพติดได้รับการประสานจากตำรวจไต้หวันว่ามีขบวนการลักลอบขนยาเสพติดเฮโรอีนจากไทยไปไต้หวัน จึงสืบสวนติดตามจนพบว่ามีกลุ่มนักค้ายาเสพติดข้ามชาติชาวไต้หวันเดินทางเข้ามาเพื่อทำการลักลอบขนยาเสพติด จึงเฝ้ารอจนผู้ต้องหามายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และจับกุมได้พร้อมของกลาง เฮโรอีนที่ซุกซ่อนไว้ในกระเป๋าเดินทาง ขณะเตรียมเดินทางไปประเทศไต้หวันที่บริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
คดีที่ 6 จับกุม นายหยีเวิ่ง ลุงชัย อายุ 35 ปี และนายอภิชาติ กะรัตน์ อายุ 37 ปี พร้อมของกลาง ไอซ์ น้ำหนัก 3.25 กิโลกรัม และยาบ้า 53,000 เม็ด โดยตำรวจได้สืบสวนติดตามกลุ่มเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดที่มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดและนำเข้ามาเก็บในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล เพื่อรอจำหน่ายให้กับลูกค้า จากสืบสวนทราบว่าจะมีการเจรจาซื้อขายยาเสพติดกันบริเวณห้างสรรพสินค้า ย่านบางกะปิ โดยนัดส่งยาเสพติดในซอยลาดพร้าว 130 จึงได้วางแผนการสืบสวนและเข้าทำการจับกุมผู้ต้องได้ 2 คน พร้อมไอซ์ของกลาง 3 กิโลกรัม จากนั้นขยายผลการจับกุมตรวจค้นพบยาบ้าจำนวน 53,000 เม็ด และไอซ์ อีก น้ำหนักประมาณ 250 กรัม ที่ห้องพักของผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ภายในซอยนวมินทร์ 42 ถนนนวมินทร์ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม
คดีที่ 7 ตำรวจตรวจยึดกัญชาอัดแท่ง น้ำหนัก 1,100 กิโลกรัม ได้ที่บริเวณสี่แยกไฟแดงบ้านสามพร้าว ถนนสายเลี่ยงเมืองอุดรธานี ตำบลหนองบัว อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ต่อเนื่อง บริเวณถนนมิตรภาพ ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 91 - 92 ตำบลห้วยสามพาด อำเภอประจักษ์ศิลปาคม จังหวัดอุดรธานี หลังสืบสวนทราบว่าจะมีเครือข่ายค้ายาเสพติดที่ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากจังหวัดชายแดน สปป.ลาว ไปยังพื้นที่ตอนในและตอนใต้ของไทย โดยเครือข่ายดังกล่าวจะมีท้าวคำ เป็นตัวการใหญ่คอยสั่งการจาก สปป.ลาว ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้จับกุมบุคคลในเครือข่ายนี้ไปหลายคดี แต่เนื่องจากมีผลประโยชน์และค่าจ้างจำนวนมาก จึงได้มีทีมลักลอบลำเลียงหน้าใหม่ขึ้นมาเป็นตัวตายตัวแทนอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งในวันเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่าจะมีกลุ่มนักค้ายาเสพติดใช้รถกระบะลักลอบลำเลียงยาเสพติด จึงไปเฝ้าสังเกตการณ์ตามเส้นทาง จนกระทั่งพบรถคันดังกล่าว ขับขี่มาตามถนนมิตรภาพ หนองคาย-อุดรธานี เมื่อรถยนต์เป้าหมายขับขี่มา สี่แยกไฟแดง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แสดงตัวและขอตรวจค้นแต่ผู้ขับขี่ได้ขับรถชนรถยนต์ของเจ้าหน้าที่และขับรถหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ชุดตรวจยึดได้ติดตามไป พบรถยนต์คันเป้าหมายเสียหลักตกลงข้างทาง ผู้ขับขี่ได้อาศัยความมืดหลบหนีเข้าป่าอ้อยไป จึงตรวจยึดได้เพียงของกลาง
คดีที่ 8 จับกุม นายจรัญ อุดาหน อายุ 29 ปี พร้อมของกลาง ไอซ์ น้ำหนัก 4 กิโลกรัม โดยตำรวจสืบทราบว่าจะมีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดจะนำยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีนำยาเสพติดมาส่งให้กับลูกค้าที่ ปั๊มน้ำมัน ปตท.ลุงเท่ง ถนนเพชรเกษม ตำบลดอนชุนห้วย อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ตำรวจจึงได้วางกำลังซุ่มสังเกตการณ์ในจุดนัดหมาย จนพบนายจรัญขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาภายในปั๊มน้ำมัน ลักษณะท่าทางมีพิรุธน่าสงสัย จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นและพบของกลาง โดยนายจรัญรับสารภาพว่านำยาเสพติดมาส่งให้กับลูกค้า แต่ฝ่ายลูกค้าที่มารับของไหวตัวทันไม่มารับของกลางตามนัด
คดีที่ 9 จับกุม นายบี บัววัน , นายเรืองศักดิ์ แก้วสด , นางสาวสุธาทิพย์ อ่อนวอน และนางสาวพัชรี รุ่งระวี พร้อมของกลาง ยาบ้า 100,000 เม็ด โดยตำรวจสืบทราบว่าจะมีการการขนส่งและลำเลียงยาเสพติดจากจังหวัดเชียงราย ไปส่งให้กับลูกค้าในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยจะใช้เส้นทางถนนพหลโยธิน จังหวัดนครสวรรค์-กำแพงเพชร - ตาก - ลำปาง -พะเยา - เชียงราย เข้าสู่พื้นที่ตอนใน จึงวางแผนจับกุมได้ที่ริมถนนพหลโยธิน ตำบลแม่ปืม อำเภอเมืองพะเยา
พบว่าผู้ต้องหาได้ซุกซ่อนยาบ้าในกระเป๋าเป้นำไปวางไว้บริเวณโคนเสาแถวสถานที่เกิดเหตุ
คดีที่ 10 จับกุมนางสาวทิพวรรณ กงทอง , นายชนนิกานต์ พันนุช , นายปกรณ์ เต็มศิริพงศ์ และนายวารุตน์ กลิ่นเกษร พร้อมของกลาง ไอซ์ น้ำหนัก 2 กรัม , ยาอี 70 เม็ด , เคตามีนชนิดเกล็ด จำนวน 123 กรัม และชนิดน้ำ จำนวน 60 ขวด
และทรัพย์สินอื่นๆ อีกหลายรายการ รวมมูลค่าประมาณ 3.6 ล้านบาท โดยจับกุมได้ที่หอพักแห่งหนึ่ง ในถนนบางแสนสาย 4 ตำบลแสนสุข อำเภอเมืองชลบุรี
สืบเนื่องจาก ตำรวจทราบว่ามีกลุ่มนักค้ายาเสพติดที่ลักลอบจำหน่ายในสถานบริการต่างๆ ในจังหวัดชลบุรี จึงได้ทำการสืบสวนและสะกดรอยผู้ต้องสงสัยมาเป็นระยะเวลาเกือบ 3 เดือน จนทราบพฤติการณ์ว่าจะมีการนำเอายาเสพติดหลายประเภทมาวางไว้ตามสถานที่เปลี่ยวเพื่อส่งให้ลูกค้ามารับจึงได้วางแผนเข้าทำการติดตามสะกดรอยและวางกำลังตามเส้นทางเพื่อจับกุม จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งสี่คน และได้ทำการตรวจยึดทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติดหลายรายการ