นายคณนาถ หมื่นหนู โฆษกกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงกรณีสถานการณ์ไวรัสโคโรนาที่เกิดขึ้นในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนและส่งผลกระทบต่อหลายๆ ประเทศทั่วโลก และประเทศไทย ว่า ในภาคการท่องเที่ยวไทยที่จำนวนนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนมีสัดส่วนเป็น 1 ใน 3 ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด น่าจะมีผลกระทบต่อเนื่องกับธุรกิจการท่องเที่ยวของไทย ดังนั้นเวลานี้ทางกระทรวงฯ จึงได้จัดตั้งวอร์รูมเฝ้าติดตามสถานการณ์มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผลกระทบที่มาจากมาตรการที่รัฐบาลจีนมีคำสั่งให้บริษัทนำเที่ยวหยุดการทำทัวร์ในต่างประเทศ รวมถึงห้ามไม่ให้จำหน่ายแพกเกจท่องเที่ยวแก่นักท่องเที่ยว เอฟไอที (ท่องเที่ยวด้วยตัวเอง) ในกลุ่มชาวจีน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว ซึ่งผลจากมาตรการดังกล่าวส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนของไทยลดลงเป็นจำนวนมาก โดยในช่วงแรกภายหลังคำสั่งห้าม นักท่องเที่ยวจีนลดลง20% และล่าสุดเมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา ลดลงกว่า 80% โดยจำนวนนักท่องเที่ยวจีนตั้งแต่วันที่ 24 - 31 มกราคม ที่ผ่านมา มีจำนวนทั้งสิ้น 143,000 คน ลดลงเกือบ 2 แสนคน คิดเป็น 58.0% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลงดังกล่าว ในเบื้องต้น คาดว่า จะส่งผลให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวสูญเสียรายได้กว่า 9,156 ล้านบาท โดยภาคธุรกิจที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายสินค้า/ของที่ระลึก สถานพักแรม และการจำหน่ายอาหาร/เครื่องดื่ม ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม นายคณนาถ กล่าวว่า ประเทศไทยยังมีจุดแข็งอีกหลายอย่าง และประการสำคัญคือ มีบุคลากรและแพทย์ที่สามารถบริหารจัดการ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ของโรคได้อย่างทันท่วงที มีการเรียนรู้ลักษณะอาการของโรค สามารถควบคุมโรคได้ มีการให้ข้อมูลที่เชื่อถือได้จากหน่วยงานที่รับผิดชอบ มีประสบการณ์เกี่ยวกับโรคที่คล้ายกัน มีระบบควบคุม กักกัน แยกโรคที่ดี และมีการทำงาน24 ชั่วโมง ตลอดทั้ง มีการสื่อสารประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ในการดูแลป้องกันตนเองแก่ประชาชน โดยประเทศไทยยังไม่มีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ ดังนั้นจึงเชื่อมั่นได้ว่าประเทศไทยจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว ขณะที่ในส่วนของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้มีการจัดตั้งวอร์รูมที่ประกอบด้วยส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน ตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม 2563 เพื่อร่วมกันประเมินสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวและวางแผนเตรียมป้องกันผลกระทบที่จะตามมา พร้อมทั้งมีการหารือเตรียมออกมาตรการที่เหมาะสมภายหลังสถานการณ์โคโรนาผ่านพ้นไป โดยในช่วงที่จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงด้วยสภาพตมสถานการณ์เช่นนี้ ทางกระทรวงฯ มองเห็นเป็นโอกาสที่หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องใช้เป็นช่วงของการปรับปรุง ทบทวนกระบวนการทำงานเพื่อลดปัญหาอุปสรรคที่เคยเจอ ทั้งด้านการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว การพัฒนามาตรฐานบริการท่องเที่ยว การปรับปรุงระบบคิวในการเดินทาง ฝ่ายพัฒนาบุคลากรการท่องเที่ยว การทบทวนปรับแก้กฎหมาย การออกและกำกับใบอนุญาต ตลอดถึงการปรับปรุงถนนหนทาง ทางเท้าทางลาดให้เหมาะสมกับการเดินทางของนักท่องเที่ยวและคนทุกเพศวัย ทุกสภาพร่างกายและหรืออื่นๆ เพื่อรองรับการให้บริการแก่นักท่องเที่ยวต่อไป