“นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชนทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,254 หน่วยตัวอย่าง ประชาชน เรื่อง “ส.ส. เสียบบัตร แทนกัน” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 29 – 31 มกราคม 2563 เมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับข่าว ส.ส. เสียบบัตรลงคะแนนแทนกัน ในการโหวตร่าง พ.ร.บ. งบประมาณ 2563 พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 80.14 ระบุว่า เป็นการกระทำที่ไร้จิตสำนึกของ ส.ส. รองลงมา ร้อยละ 13.56 ระบุว่า เป็นเรื่องปกติ เกิดขึ้นบ่อย ร้อยละ 9.81 ระบุว่า เป็นการซ้ำเติมเศรษฐกิจประเทศ หาก ร่าง พ.ร.บ. งบประมาณต้องตกไป ร้อยละ 5.18 ระบุว่า เป็นเรื่องของความประมาท รู้เท่าไม่ถึงการณ์ของ ส.ส. ร้อยละ 2.31 ระบุว่า เป็นเรื่องของนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ต้องการแก้แค้นที่สอบตก ส.ส. พัทลุง และร้อยละ 0.96 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ เป็นการกระทำที่ผิดรัฐธรรมนูญ 2560 ทั้งนี้เมื่อถามถึงผู้ที่ควรรับผิดชอบต่อกรณี ส.ส. เสียบบัตรลงคะแนนแทนกัน ในการโหวตร่าง พ.ร.บ. งบประมาณ 2563 พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 45.85 ระบุว่า ส.ส. ที่มีส่วนร่วมในการเสียบบัตรลงคะแนนแทนกัน ควรลาออกจากตำแหน่ง รองลงมา ร้อยละ 19.62 ระบุว่า นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ควรร่วมรับผิดชอบ ด้วยการลาออกจากตำแหน่ง ร้อยละ 19.54 ระบุว่า สภาควรมีมติขับไล่ ส.ส. ที่มีส่วนร่วมในการเสียบบัตรลงคะแนนแทนกัน ให้ออกจากตำแหน่ง ร้อยละ 11.96 ระบุว่า ส.ส. ที่มีส่วนร่วมในการเสียบบัตรลงคะแนนแทนกัน ควรเลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิต ร้อยละ 11.56 ระบุว่า พรรคการเมืองที่มี ส.ส. ร่วมในการเสียบบัตรลงคะแนนแทนกัน ควรร่วมรับผิดชอบด้วยการถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล ร้อยละ 10.13 ระบุว่า ส.ส. ที่มีส่วนร่วมในการเสียบบัตรลงคะแนนแทนกัน ต้องจ่ายค่าเสียหายให้รัฐ ที่ทำให้การใช้งบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต้องล่าช้าออกไป ร้อยละ 9.01 ระบุว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล ควรร่วมรับผิดชอบ ด้วยการลาออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร้อยละ 8.61 ระบุว่า พรรคการเมืองที่มี ส.ส. ร่วมในการเสียบบัตรลงคะแนนแทนกัน ต้องจ่ายค่าเสียหายให้รัฐ ที่ทำให้การใช้งบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต้องล่าช้าออกไป