จากสถานการณ์ เชื้อ “ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019” หรือที่เรียกกันติดปากว่า “ไวรัสอู่ฮั่น” ซึ่งเรียกตามชื่อเมืองของต้นตอ แหล่งกำเนิดเชื้อไวรัสที่กำลังเขย่าโลก ณ ชั่วโมงนี้ คือ เมืองอู่ฮั่น นครหลวงเมืองเอกของมณฑลเหอเป่ย ทางตะวันออกของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน หรือจีนแผ่นดินใหญ่นั้น ทั้งนี้ปัจจุบันมีรายงานว่า จำนวนผู้ป่วยที่เสียชีวิตได้เพิ่มขึ้นเมื่อวันพุธที่ผ่านมาเพียงวันเดียวถึง 38 ราย เป็นชาวมณฑลเหอเป่ย 37 ราย และชาวมณฑลเสฉวน 1 ราย ส่งผลให้ผู้เสียชีวิตนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดเมื่อปลายปีที่แล้วเป็นต้นมารวมแล้ว 170 ราย ส่วนจำนวนผู้ป่วยจากการติดเชื้อได้เพิ่มขึ้นเป็น 7,894 ราย หลังมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเมื่อวันพุธที่ผ่านมาอีกจำนวน 1,737 ราย ส่วนผู้ต้องสงสัยว่าจะติดเชื้อมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 4,148 ราย ขณะที่ ผู้ที่ถูกจับตาเฝ้าดูอาการเพราะใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่ติดเชื้อมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 88,693 ราย ล่าสุด นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำพรรคชาติพัฒนา อดีตรองนายกรัฐมนตรี นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา พร้อมด้วยนายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ที่ปรึกษาพรรคฯ และอาจารย์หมอ กล่าวที่ จ.นครราชสีมา ถึงสถานการณ์ความร่วมมือในการแก้ไขวิกฤติโวรัสโคโรน่า ที่มีการระบาดและมีผู้เสียชีวิตไปทั่วโลกว่า ไวรัสโคโรน่า (ไวรัสอู่ฮั่น) ในภาพรวมตอนนี้เป็นสิ่งที่ทั่วโลกกังวลกันและหวั่นเกรงว่าจะมีผลกระทบทั้งเรื่องของสุขภาพและเศรษฐกิจอย่างตนคิดว่าทุกฝ่ายให้ความตื่นตัวและให้ความร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหา โดยทราบกันดีว่าไวรัสนี้เกิดจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ซึ่งทางจีนก็ได้แสดงออกถึงความรับผิดชอบในการที่จะดูแลแก้ไขด้วยการปิดเมือง หรือไม่ให้กลุ่มท่องเที่ยวออกจากเมืองที่เกี่ยวพันกับไวรัสที่ระบาด อันนี้เป็นการล้อมกรอบปิดสถานการณ์ให้อยู่ในขีดหรือเขตที่จำกัดที่สามารถจะเข้าไปบริหารจัดการได้ ส่วนที่บางคนหรือหลายคนที่ติดเชื้อออกมาแล้วและไปประเทศต่างๆ อย่างประเทศไทย มีเจอกว่า 10 คน ประเทศอื่นๆ ก็เจอเป็นเรื่องของแต่ละประเทศที่จะไปบริหารจัดการ ส่วนสถานการณ์ของไทยตนมองว่า ขณะนี้รัฐบาลได้มีมาตรการต่างๆ ออกมาดำเนินการและมีความร่วมมือกับทุกฝ่าย ไม่ว่าภาคเอกชน โรงพยาบาล ศูนย์การค้า สถานประกอบการการท่องเที่ยวต่างๆ สถานศึกษาที่มีความร่วมมือกันในเรื่องของการสร้างระบบในการถ่ายทอดข้อมูลข่าวสารหรือแม้แต่บนแอร์ไลน์ต่างๆ ที่มีระบบในการคัดกรองตรวจสอบเพื่อป้องกันไม่ให้มีการเผยแพร่มากไปกว่านี้ ตั้งแต่มาถึงสนามบินหรือขึ้นเครื่องบินมีการตรวจสอบหรือจะเข้าศูนย์การค้าต่างๆ ตนว่ามาตรการต่างๆ เหล่านี้ถือเป็นการแสดงออกถึงการเตรียมความพร้อมในการแก้ไขสถานการณ์ ส่วนที่มีกรณีนำไปเป็นเรื่องทางการเมืองโจมตี พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีนั้น ตนคิดว่า เรื่องไวรัสนี้มันเป็นปัญหาของประชาชน วันนี้ทุกคนต้องช่วยกันให้ข้อมูลหรือให้กำลังใจของคนที่เขามีหน้าที่ทำงาน ทั้งแพทย์ หมอ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาลต่างๆ เจ้าหน้าที่สนามบิน แอร์ไลน์ ศูนย์การค้าต่างๆ เขาเหนื่อยกันมาก ตนว่าวันนี้เราควรจะให้กำลังใจและให้ความร่วมมือ และให้ข้อมูลกับพี่น้องประชาชนในการดูแลตนเอง ฉะนั้นวันนี้ต้องเอาเรื่องนี้กันก่อน เรื่องอื่นว่ากันทีหลัง