สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า คณะกรรมการด้านสุขภาพแห่งชาติจีน หรือเอ็นเอชซี ออกมายอมรับว่า เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือไวรัสอู่ฮั่น ได้แพร่ระบาดไปในทุกภูมิภาคของสาธารณรัฐประชาชนจีน หรือจีน อันประกอบด้วยมณฑล เขตปกครองตนเอง เทศบาลนคร และเขตบริหารพิเศษ รวมทั้งสิ้น 31 แห่งแล้ว นับตั้งแต่เชื้อไวรัสได้เริ่มแพร่ระบาดเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว พร้อมกันนี้ คณะกรรมการเอ็นเอชซีของทางการจีน ยังระบุด้วยว่า นอกเหนือจากจีนแผ่นดินใหญ่แล้ว เชื้อไวรัสยังได้แพร่ระบาดไปในประเทศต่างๆ ทั่วโลกรวมแล้ว 16 ประเทศ ซึ่งรวมถึงประเทศไทย นอกจากนี้ คณะกรรมการเอ็นเอชซี ยังเปิดเผยถึงสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือไวรัสอู่ฮั่นด้วยว่า ยังคงน่าเป็นห่วง เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยที่ติดเชื้อและผู้ป่วยที่เสียชีวิต ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมีรายงานว่า จำนวนผู้ป่วยที่เสียชีวิตได้เพิ่มขึ้นเมื่อวันพุธที่ผ่านมาเพียงวันเดียวถึง 38 ราย เป็นชาวมณฑลเหอเป่ย 37 ราย และชาวมณฑลเสฉวน 1 ราย ส่งผลให้ผู้เสียชีวิตนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดเมื่อปลายปีที่แล้วเป็นต้นมารวมแล้ว 170 ราย ส่วนจำนวนผู้ป่วยจากการติดเชื้อได้เพิ่มขึ้นเป็น 7,894 ราย หลังมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเมื่อวันพุธที่ผ่านมาอีกจำนวน 1,737 ราย ส่วนผู้ต้องสงสัยว่าจะติดเชื้อมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 4,148 ราย ขณะที่ ผู้ที่ถูกจับตาเฝ้าดูอาการเพราะใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่ติดเชื้อมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 88,693 ราย ขณะเดียวกัน ทางด้านทางการสหรัฐฯ โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค หรือซีดีซี ได้ออกแถลงการณ์ยกระดับคำเตือนแก่พลเมืองชาวสหรัฐฯ ที่จะเดินทางไปไปยังประเทศจีนว่า ให้ระมัดระวังในการเดินทางไปเมืองอื่นๆ ในมณฑลเหอเป่ยด้วย นอกเหนือจากเมืองอู่ฮั่น ซึ่งเป็นเมืองเอกของมณฑลดังกล่าวแล้ว และเป็นศูนย์กลางของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 พร้อมกันนี้ บรรดานักวิเคราะห์เศรษฐศาสตร์ของสหรัฐฯ ยังประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ด้วยว่า อาจได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 จนเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในปีนี้ขยายตัวได้เพียงร้อยละ 2 เท่านั้น