วันที่ 29 ม.ค. ที่ท่าเทียบเรือ สน.บางคอแหลม พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.พร้อมด้วย พล.ต.ต.คมศักดิ์ สุมังเกษตร ผบก.จร.และ พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก.น.8 สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ บก.จร. กรมควบคุมมลพิษ กรมเจ้าท่า และ สำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ นำเครื่องมือตรวจวัดค่าควันดำลงพื้นที่ทำการตรวจสอบรถยนต์และรถกระบะที่ใช้ในราชการตำรวจสังกัด บก.น.8 รวมถึงตรวจวัดค่าควันดำเรือหางยาวและเรือโดยสารที่ให้บริการตามเส้นทางแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อกวดขันมาตรการลดค่าฝุ่นพิษ PM 2.5 ตามนโยบายเร่งด่วนที่รัฐบาลและผู้บังคับบัญชาได้สั่งการเอาไว้ พล.ต.ต.จิรสันต์ เปิดเผยว่า วันนี้เป็นครั้งแรกของกองบัญชาการตำรวจนครบาลที่มีการนำร่องตรวจเรือโดยสารที่ให้บริการในแม่น้ำเจ้าพระยา ตลอดจนมีการนำร่องการตรวจพิสูจน์มลพิษจากควันท่อไอเสียรถยนต์หลวงที่ใช้ในราชการตำรวจ ซึ่งมาตรการดังกล่าวเป็นนโยบายเร่งด่วนเพื่อลดฝุ่นพิษ PM 2.5 ซึ่งประเทศไทย โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีค่า PM 2.5 สูงจนอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อร่างกายมาตั้งแต่เดือน พ.ย.62 ซึ่งผลการตรวจวันนี้เป็นที่น่าพอใจ สำหรับรถยนต์ของทางราชการนั้นไม่มีคันใดที่มีค่าควันดำเกินมาตรฐาน หรือ ค่าทึบแสงเกินร้อยละ 45 จะมีบางคันเท่านั้นที่มีค่าทึบแสงอยู่ที่ประมาณร้อยละ 30 ถึงร้อยละ 35 ซึ่งแม้จะไม่เกินมาตรฐานและไม่ผิดกฎหมายแต่ก็ต้องกวดขันให้ผู้บังคับบัญชาแต่ละโรงพักนำรถยนต์คันดังกล่าวไปบำรุงรักษาซ่อมแซมให้ค่าทึบแสงลดลงกว่านี้เนื่องจากเริ่มส่งผลกระทบต่อสภาพอากาศ โดยหลังจากนี้จะนำเจ้าหน้าที่ บก.จร.ไปลงพื้นที่กวดขันตรวจสอบค่าควันดำของรถราชการอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ประชาชน “สำหรับการสนธิกำลังกับกรมควบคุมมลพิษและกรมเจ้าท่าร่วมกันตรวจวัดควันดำเรือโดยสารในวันนี้ก็เช่นกัน เนื่องจากเราเล็งเห็นว่าเรือโดยสารตามแม่น้ำต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ก็ล้วนแต่เป็นสาเหตุหนึ่งที่อาจก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศได้ ดังนั้นจึงนำเครื่องตรวจวัดค่าควันดำมาทำการตรวจสอบเครื่องยนต์เรือด้วยเช่นกัน โดยข้อกำหนดของเครื่องยนต์เรือโดยสารนั้นจะแตกต่างกับรถยนต์คือ ผลการตรวจต้องมีค่าทึบแสงไม่เกินร้อยละ 25 ซึ่งในวันนี้ยังไม่พบเรือโดยสารที่มีค่าทึบแสงสูงถึงขนาดนั้น แต่อย่างไรก็ตามได้ประสานให้กรมเจ้าท่า ช่วยทำการตรวจสอบเรือโดยสารตามพื้นที่ต่างๆ ให้ถี่ขึ้น ซึ่งทางกรมควบคุมมลพิษก็จะสนับสนุนเครื่องมือตรวจวัดและเจ้าหน้าที่มาช่วยกันอีกทางหนึ่ง” พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าว.