เครือข่ายประชาชนสตูล และสมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทย ยื่นร้อง “รัฐบาลต้องเคารพสิทธิการพัฒนาของประชาชนบนฐานศักยภาพที่มีอยู่จริง” วันที่ 29 ม.ค.2563 ที่สมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทย และสมาคมสตรีประมงพื้นบ้านภาคใต้ 22 จว. 51 องค์กรหลังร่วมประชุมสัมมนาประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 7 เพื่อหาแนวทางในการบริหารจัดการทรัพยากรประมงร่วมกัน และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องแนวทางสร้างความมั่นคงทางอาหารการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวประมงพื้นบ้าน และทรัพยากรประมงไทยให้ยั่งยืน โดยเชิญพลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ ประธานคณะกรรมาธิการเกษตรและสหกรณ์ วุฒิสภา เป็นประธาน เปิดการประชุม นายมีศักดิ์ ภักดีคง อธิบดีกรมประมง , นายวีรนันทน์ เพ็งจันทน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูลกล่าวต้อนรับ , นายสะมะแอ เจะมูดอ นายกสมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านฯ รายงานสถานการณ์ประมงพื้นบ้าน โดยกิจกรรมมีขึ้นระหว่างวันที่ 27-29 ม.ค.2563 นั้น และเพื่อสรุปปัญหาและทิศทางการสร้างความยั่งยืนมั่นคงทางอาหารและคุณภาพชีวิต กับกลุ่มรักเล รักป่า รักภูเขา เคลื่อนพลวันนี้เพื่อแสดงเจตนารมกับปฏิบัติการปกป้องทะเล ปกป้องสตูล ยื่นแถลงการณ์ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดถึงรัฐบาล โดยเครือข่ายภาคประชาชนจังหวัดสตูล และสมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทยเรื่อง รัฐบาลต้องเคารพสิทธิการพัฒนาของประชาชนบนฐานศักยภาพที่มีอยู่จริง ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเคารพการกำหนดทิศทางการพัฒนาของประชาชนในพื้นที่ ด้วยการยุติความคิดที่จะฟื้นโครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา ยุติกระบวนการให้สัมปทานแหล่งหินทั้งหมดในเมืองอุทยานธรณีโลก และยุติการดำเนินนโยบายการประมงที่ขัดกับแนวทางการพัฒนาที่ยังยืน โอกาสเดียวกันนี้ให้หันมารับฟังความต้องการของคนในพื้นที่ ที่ต้องการจะพัฒนา “จังหวัดสตูลให้เป็นจังหวัดแห่งการท่องเที่ยวระดับโลก” และร่วมกันส่งเสริมสนับสนุนความต้องการดังกล่าวนั้นให้เกิดขึ้นจริงในอนาคต ขณะที่พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ ประธานคณะกรรมาธิการเกษตรและสหกรณ์ วุฒิสภา กล่าวขณะ เป็นประธานการประชุมสัมมนาสมาพันธ์ชาวประมงแห่งประเทศไทยว่า หลังได้ข้อสรุปที่ในที่ประชุมสมัชชาประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทย ขอให้มีการจัดส่งบทสรุปให้กับคณะกรรมาธิการเกษตรและสหกรณ์ วุฒิสภาด้วยหนึ่งชุด เพื่อช่วยติดตามว่านโยบายภาครัฐจะดำเนินการอย่างไรต่อไป โดยทุกสามเดือนจะต้องมีการรายงานการติดตามการทำประมงพื้นบ้านและประมงพาณิชย์ รวมทั้งประมงนอกน่านน้ำ อยู่แล้ว ส่วนข้อกังวล ที่จะมีการปัดฝุ่นโครงการขนาดใหญ่อย่างโครงการท่าเทียบเรือปากบารานั้น เรื่องนี้เรายึดหลักการทำงานนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์อยู่เสมอว่า “เวลาทำงานเรื่องหนึ่งต้องไม่สร้างปัญหาอีกเรื่องหนึ่ง ท่าโครงการใหญ่ใหญ่ที่จะเกิดขึ้นจะไปกระทบ ต้องหาทางและขอยุติ เพราะประชาชนเป็นส่วนสำคัญ”