ปัจจุบันภาคการเกษตรแรงงานน้อยลง และยังเป็นแรงงานที่มีอายุมาก แต่ก็มีเทคโนโลยีสมัยใหม่หลากหลายให้เลือกใช้แทนแรงงานคน จึงต้องมีการเรียนรู้เพื่อที่จะเลือกใช้ให้เหมาะสมจะช่วยลดต้นทุนการผลิตได้ ส่วนในภาคการตลาด วันนี้มีช่องทางการค้าขายมากขึ้น สามารถติดต่อซื้อขายกับผู้ซื้อได้โดยตรง คือ การขายออนไลน์ ถ้าเราเข้าใจสิ่งใหม่ๆ เหล่านี้ ก็จะเป็นประโยชน์กับเรามากขึ้น แต่สิ่งสำคัญต้องคำนึงถึงการผลิตที่มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค และไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ซึ่งก็จะช่วยให้การผลิตมีความยั่งยืนและเป็นที่ยอมรับของสังคมโลก นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้บรรยายพิเศษ หัวข้อ “นโยบายด้านการผลิตข้าวและการสร้างความเข้มแข็งให้แก่องค์กรชาวนา” ในการสัมมนาชี้แจงโครงการเสริมสร้างศักยภาพการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวของศูนย์ข้าวชุมชน ปี 2563 ณ โรงแรมอิงธารรีสอร์ท จังหวัดนครนายก ว่า เมล็ดพันธุ์ข้าว เป็นปัจจัยหนึ่งที่มีความสำคัญมาก เพราะเมล็ดพันธุ์เปรียบเสมือนหัวใจของการเพาะปลูก ถ้าได้เมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพดีก็จะยิ่งทำให้การเพาะปลูกได้ผลผลิตดียิ่งขึ้น โดยได้ดำเนินการสร้างระบบการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว ให้มีความเข้มแข็ง มั่นคง ยิ่งขึ้น ซึ่งศูนย์ข้าวชุมชน ถือเป็นส่วนสำคัญที่จะต้องร่วมมือร่วมใจ ผลิตเมล็ดพันธุ์คุณภาพดีให้ได้และเพียงพอกับความต้องการใช้ในแต่ละปี “การเกษตรของประเทศมีความเจริญก้าวหน้ามากขึ้น มีการใช้นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อให้การผลิตมีประสิทธิภาพ ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ก็ต้องพิจารณาใช้ให้เหมาะสม และสิ่งที่ไม่ควรลืม คือ ศาสตร์ของพระราชาโดยเฉพาะการดำรงชีวิตตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง อยากจะขอให้ทุกคนได้น้อมนำไปประพฤติปฏิบัติในวิถีชีวิต เพื่อช่วยให้ตนเองและครอบครัวดำรงอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขตลอดไป”รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าว โดยในปีนี้ได้มีการสนับสนุนศูนย์ข้าวชุมชนอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งด้านเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดี จากกรมการข้าว ศูนย์ละ 3 ตัน ระบบการควบคุมคุณภาพเมล็ดพันธุ์ข้าวของศูนย์ข้าวชุมชน รวมไปถึงการถ่ายทอดความรู้ด้านการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีให้แก่สมาชิกที่เข้าร่วมโครงการ และที่สำคัญเป็นปีแรกที่ได้งบประมาณในการจัดซื้อเครื่องอบลดความชื้นเมล็ดพันธุ์ข้าว จำนวน 20 ชุด และเครื่องคัดทำความสะอาดเมล็ดพันธุ์ข้าว จำนวน 200 ชุด ให้แก่ศูนย์ข้าวชุมชนที่เข้าร่วมโครงการ และคาดว่าจะได้รับการสนับสนุนให้แก่ศูนย์ข้าวชุมชนเพิ่มขึ้นในปีต่อไป ซึ่งจะส่งผลให้พัฒนาศักยภาพการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีให้มีปริมาณเพิ่มขึ้นเพียงพอต่อความต้องการของชุมชน โดยมีเป้าหมายให้ศูนย์ข้าวชุมชนผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวได้ไม่น้อยกว่า 100 ตันต่อศูนย์ ด้านนายสุดสาคร ภัทรกุลนิษฐ์ อธิบดีกรมการข้าว กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการข้าว มีแนวทางในการสร้างความเข้มแข็งให้แก่ศูนย์ข้าวชุมชน ให้สามารถผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีไว้ใช้เองอย่างเพียงพอและต่อเนื่องในชุมชน รวมทั้งเป็นศูนย์กลางถ่ายทอดเทคโนโลยีการพัฒนาการผลิตข้าวและชาวนา กำหนดแนวทางการผลิตข้าวอย่างเป็นระบบ และมีการบริหารจัดการที่ดี โดยในปี 2563 ได้มีการจัดทำโครงการเสริมสร้างศักยภาพการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวของศูนย์ข้าวชุมชน ปี 2563 เพื่อเสริมสร้างศักยภาพการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีให้แก่ ศูนย์ข้าวชุมชน จำนวน 400 แห่ง ให้สามารถผลิตได้ไม่น้อยกว่า 100 ตันต่อศูนย์ เพื่อส่งเสริมการสร้างเครือข่ายให้เชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบ พร้อมสนับสนุนปัจจัยการผลิตที่สำคัญ คือเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีจากกรมการข้าว สำหรับเป็นหัวเชื้อ พัฒนาระบบการควบคุมคุณภาพเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ดี รวมไปถึงการถ่ายทอดความรู้ด้านการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีให้แก่สมาชิกที่เข้าร่วมโครงการทั้งนี้ กรมฯ ยังได้มีการส่งเสริมให้ศูนย์ข้าวชุมชน ทำการขายแบบออนไลน์ เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการตลาดอีกด้วย