ไม่เก็บไว้เองแจ้งตร.ตามหาทองหนัก 1 บาทหลังทำหล่นหายในธนาคาร ที่จ.อุดรธานีคุณยายวัย 74 ปีอดีตข้าราชการบำนาญสุดน่ารัก เก็บสร้อยข้อมือหนักถึง 1 บาทได้ไม่ถือวิสาหะเก็บไว้เองขึ้นโรงพักอุดรแจ้งประกาศตามหาเจ้าของ เป็นเรื่องที่น่าชื่นชมจริงๆ
โดยวันนี้ (27 ม.ค.63) ขณะที่ ร.ต.อ.หญิง นฤมล กัวซือกุ รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก ได้มีนางจริยา เดชสวนะ อายุ 74 ปี ข้าราชการบำนาญ(ฝ่ายปกครอง) บ้านเลขที่ 274/86 ถ.อดุลยเดช ต.หมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี และนายจีระพันธ์ ธุรนิกร อายุ 36 ปี ผจก.ฝ่ายลงทุน ธ.กรุงไทย สาขาเซ็นทรัลอุดรธานี นำสร้อยข้อมือทองคำลายกระดูกงู พร้อมจี้รูปหัวใจรวมน้ำหนัก 1 บาท มูลค่า 20,000 บาท เพื่อคืนเจ้าของที่คาดว่าเป็นลูกค้าของธนาคารทำหล่นไว้ที่พื้น บริเวณใต้เก้าอี้นั่งสำหรับลูกค้า เวลาประมาณ 14.00 น. วันที่ 18 มกราคม ที่ผ่านมา
โดยนางจริยา เดชสวนะ ลูกค้าเป็นคนเก็บทองได้ แล้วนำมาแจ้งพนักงานเคาน์เตอร์ของธนาคาร แต่ไม่มีคนมาติดต่อรับ จึงนำมาแจ้งลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน และให้สื่อมวลชนช่วยประชาสัมพันธ์ ให้เจ้าของมารับคืนที่ สภ.เมืองอุดรธานี
นางจริยา เดชสวนะ เปิดเผยว่า ขณะที่ตนนั่งอยู่เก้าอี้ในธนาคาร เพื่อรอคิวเอาเงินเข้าสมุดบัญชีธนาคาร ได้เห็นสร้อยข้อมือทองคำหล่นอยู่ที่พื้น จึงเก็บขึ้นมาดูพร้อมกับให้พนักงานเคาน์เตอร์ประกาศหาเจ้าของ แต่ไม่มีใครแสดงตัว จึงได้ฝากไว้ที่ธนาคาร เพื่อรอเจ้าของที่ทำหล่นมาติดต่อขอรับคืน พร้อมกับให้เบอร์โทรศัพท์กับพนักงานธนาคารไว้ แต่ผ่านไป 1 สัปดาห์ไม่มีใครมารับคืน จึงพากันนำสร้อยทองมาแจ้งความบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เก็บสร้อยทองได้ ย้อนไปเมื่อประมาณ 40 ปี ขณะที่ตนนั่งรถโดยสารประจำทางสาย กทม.-อุดรฯ มีชายหญิงวัยรุ่นหยอกล้อกันบนรถโดยสาร แล้วทำสร้อยข้อมือทองคำหล่นลงที่พื้นโดยไม่รู้ตัว ตนจึงหยิบส่งคืนให้พวกเขา เพราะไม่เคยคิดที่จะเอาของคนอื่นมาเป็นของตนเอง กระทั่งมาครั้งนี้ก็เช่นกัน ประกอบกับนึกสงสารเจ้าของสร้อยทองคำที่ กว่าจะเก็บเงินซื้อมาสวมใส่ได้คงลำบากและเสียดายเป็นทุกข์ใจในช่วงเศรษฐกิจไม่ดี หากไม่มีใครมาติดต่อขอรับ ตนได้คุยกับเจ้าหน้าที่ธนาคารแล้วว่า จะนำไปขายแล้วมอบเงินให้ รพ.ศูนย์อุดรธานี เพื่อทำบุญ
นายจีระพันธ์ ธุรนิกร ผจก.ธนาคารฯ เปิดเผยว่า หลังจากคุณป้าเก็บทองได้ แล้วนำมาฝากไว้กับพนักงานเคาน์เตอร์ เพื่อรอให้เจ้าของมาติดต่อรับคืน รวมทั้งเปิดกล้องวงจรปิดภายในธนาคาร แต่ไม่สามารถระบุว่าใครเป็นคนทำหล่นไว้ จึงนำสร้อยข้อมือทองคำไปตรวจสอบที่ร้านขายทอง ยืนยันว่าเป็นทองคำจริงไม่ใช่ทองปลอม และหากใครคิดว่าเป็นเจ้าของทองคำเส้นนี้ ให้มาติดต่อขอรับได้ที่ สภ.เมืองอุดรธานี แต่ต้องนำหลักฐาน ที่สามารถยืนยันชัดเจนว่าเป็นทรัพย์สินของตนเอง
ร.ต.อ.หญิง นฤมล กัวซือกุ เปิดเผยว่า ต้องขอชื่อชม นางจริยา เดชสวนะ และพนักงานธนาคาร ที่เก็บสร้อยทองคำนำมาแจ้งความประชาสัมพันธ์คืนเจ้าของ นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปภายใน 1 ปี หากไม่มีใครมาติดต่อขอรับ ตามกฎหมายต้องมอบให้แก่คนที่เก็บได้ และหากใครจะสวมรอยเป็นเจ้าของมารับ แต่ไม่มีหลักฐานยืนยันที่ชัดเจน เช่นรูปถ่ายของทรัพย์สินคู่กับตนเอง อาจจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายได้
ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เก็บสร้อยทองได้ ย้อนไปเมื่อประมาณ 40 ปี ขณะที่ตนนั่งรถโดยสารประจำทางสาย กทม.-อุดรฯ มีชายหญิงวัยรุ่นหยอกล้อกันบนรถโดยสาร แล้วทำสร้อยข้อมือทองคำหล่นลงที่พื้นโดยไม่รู้ตัว ตนจึงหยิบส่งคืนให้พวกเขา เพราะไม่เคยคิดที่จะเอาของคนอื่นมาเป็นของตนเอง กระทั่งมาครั้งนี้ก็เช่นกัน ประกอบกับนึกสงสารเจ้าของสร้อยทองคำที่ กว่าจะเก็บเงินซื้อมาสวมใส่ได้คงลำบากและเสียดายเป็นทุกข์ใจในช่วงเศรษฐกิจไม่ดี หากไม่มีใครมาติดต่อขอรับ ตนได้คุยกับเจ้าหน้าที่ธนาคารแล้วว่า จะนำไปขายแล้วมอบเงินให้ รพ.ศูนย์อุดรธานี เพื่อทำบุญ
นายจีระพันธ์ ธุรนิกร ผจก.ธนาคารฯ เปิดเผยว่า หลังจากคุณป้าเก็บทองได้ แล้วนำมาฝากไว้กับพนักงานเคาน์เตอร์ เพื่อรอให้เจ้าของมาติดต่อรับคืน รวมทั้งเปิดกล้องวงจรปิดภายในธนาคาร แต่ไม่สามารถระบุว่าใครเป็นคนทำหล่นไว้ จึงนำสร้อยข้อมือทองคำไปตรวจสอบที่ร้านขายทอง ยืนยันว่าเป็นทองคำจริงไม่ใช่ทองปลอม และหากใครคิดว่าเป็นเจ้าของทองคำเส้นนี้ ให้มาติดต่อขอรับได้ที่ สภ.เมืองอุดรธานี แต่ต้องนำหลักฐาน ที่สามารถยืนยันชัดเจนว่าเป็นทรัพย์สินของตนเอง
ร.ต.อ.หญิง นฤมล กัวซือกุ เปิดเผยว่า ต้องขอชื่อชม นางจริยา เดชสวนะ และพนักงานธนาคาร ที่เก็บสร้อยทองคำนำมาแจ้งความประชาสัมพันธ์คืนเจ้าของ นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปภายใน 1 ปี หากไม่มีใครมาติดต่อขอรับ ตามกฎหมายต้องมอบให้แก่คนที่เก็บได้ และหากใครจะสวมรอยเป็นเจ้าของมารับ แต่ไม่มีหลักฐานยืนยันที่ชัดเจน เช่นรูปถ่ายของทรัพย์สินคู่กับตนเอง อาจจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายได้