“FETCO” ประเมินไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่กระทบท่องเที่ยวเมืองไทย หวั่นจีดีพีหดตัว ชี้ทำพิษตลาดหุ้นไทยแค่ช่วงสั้น มั่นใจรับมือได้ แนะปรับพอร์ตลงทุน เน้นถือเงินสด นายระธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เปิดเผยภายหลังหุ้นช่วงเช้าวันนี้ปิดลบ 45.77 จุด หรือเกือบ 3% มากกว่าภูมิภาค หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่รุนแรงขึ้นว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นยังมีความไม่แน่นอนสูง แม้จีนจะมีมาตรการออกมาเยอะ และยังไม่มีใครรู้ว่าสถานการณ์นี้จะลากยาวขนาดไหน ซึ่งส่งผลกระทบต่อหุ้นไทยพอสมควร เห็นได้จากเช้านี้ที่มีแรงเทขายเยอะ เนื่องจากเศรษฐกิจไทยพึ่งพาการส่งออกและรายได้จากการท่องเที่ยวสูง และนักท่องเที่ยวจีนถือเป็นกลุ่มที่เข้ามาเที่ยวไทยเป็นอันดับหนึ่ง โดยการท่องเที่ยวปี 2562 มีสัดส่วนร้อยละ 11 ของจีดีพี มีจำนวนนักเที่ยงต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย 40 ล้านคน เทียบกับปี 2557 มีสัดส่วนร้อยละ 7 ของจีดีพี ถือว่ามีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทุกฝ่ายคาดว่าจะสามารถควบคุมโรคดังกล่าวได้ ถ้าเทียบกับในอดีตช่วงที่เกิดโรคซาร์สและเมอร์สนั้นส่งผลกระทบกับตลาดหุ้นไทยประมาณ 1 ไตรมาส ทั้งนี้การประเมินเบื้องต้นหากสถานการณ์ยืดเยื้อจะส่งผลให้รายได้จากการท่องเที่ยวลดลงไปทุกๆร้อยละ 10 จะส่งผลกระทบต่อจีดีพีไทยมากกว่าร้อยละ 1 และอาจจะทำให้เศรษฐกิจไทยปีนี้หดตัวกว่าที่คาด จีดีพีเหลือร้อยละ 2 จากเดิมที่คาดว่าจีดีพีปีนี้จะขยายตัวร้อยละ 3 ขณะเดียวกันมองว่า หากสถานการณ์ไม่เลวร้ายไปกว่าเดิมน่าจะส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงไม่มากนัก ส่งผลกระทบกับตลาดหุ้นไทยเพียงช่วงสั้น โดยเชื่อว่าท้ายสุดจะหาวิธีรับมือกับโรคระบาดดังกล่าวได้ แต่จะส่งผลให้มีแรงเทขายมากกว่าแรงซื้อกลับเข้ามาในช่วงสั้นๆ ส่วนแนวรับ แนวต้าน ยังขึ้นกับภาพเศรษฐกิจ โดยกลุ่มหุ้นที่น่าจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าวคือ กลุ่มท่องเที่ยว โรงแรม สายการบิน และหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคเช่น ห้างสรรพสินค้า เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง “แนะนำนักลงทุนถือหุ้นต่อได้ เพราะแนวโน้มเศรษฐกิจโลกเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัว ขณะที่อัตราดอกเบี้ยยังอยู่ระดับต่ำ นักลงทุนควรปรับพอร์ตการลงทุน เน้นถือหุ้นกลุ่ม Defensive หรือหุ้นเชิงรับเช่น กองรีท กองอสังหาริมทรัพย์ หรือกองทุนโครงสร้างพื้นฐานและหุ้นปันผลดีสม่ำเสมอ รวมถึงแนะนำให้กระจายความเสี่ยงไปยังหุ้นต่างประเทศด้วย อีกทั้งเชื่อว่าแนวโน้มราคาทองคำยังน่าสนใจตลอดทั้งปีจึงควรมีติดพอร์ตไว้บ้าง และสิ่งสำคัญคือ ถือเงินสดที่ที่สุด”