“สุทิน” จ่อเพิ่มปมฝุ่นPM 2.5 -ไวรัสโคโลนา ซักฟอกรบ.ชี้สะท้อนภาวะผู้นำประเทศ มั่นใจร่างพรบ.งบฯโมฆะแน่
วันที่ 27 ม.ค.2563 ที่พรรคเพื่อไทย นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์กรณีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาว่า นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ว่า วิปฝ่ายค้านมีความพร้อมเต็มที่ ซึ่งวันนี้จะมีการประชุม 3 ฝ่าย ของพรรคเพื่อไทยประกอบด้วย ทีมยุทธศาสตร์ของพรรค ทีมกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย และกรรมการบริหารพรรค ซึ่งจะนำข้อสรุปในที่ประชุมไปหารือร่วมกับพรรคฝ่ายค้าน จากนั้นจะมีการหารือกับหัวหน้าพรรคในช่วงเย็นวันนี้ โดยเชื่อว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการ และยื่นในวันที่ 29 ม.ค.
นายสุทิน กล่าวว่า รัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจในส่วนของพรรคเพื่อไทย เป็นคนกลุ่มเดียวกันที่พรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติ หรือจะเป็นตัวเลข 5+4 ซึ่ง 4 คนหลังอาจจะเพิ่มหรือลดในภายหลัง ซึ่งในวันนี้จะเป็นการกลั่นกรองในรายละเอียดขั้นสุดท้าย เนื่องจากมีข้อมูลที่จะนำไปอภิปรายใหม่ๆอยู่ ซึ่งมีทั้งเรื่องปัญหา ฝุ่น ละออง PM 2.5 รวมไปถึงมาตรการป้องกันไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และเรื่องในสภาฯ ที่สะท้อนถึงภาวะผู้นำในการแก้ไขปัญหาของประเทศ
เมื่อถามว่า ผลสำรวจโพลต้องการ ให้ฝ่ายค้านอภิปรายรัฐมนตรีทั้งคณะ นายสุทิน กล่าวว่า พร้อมรับฟัง แต่ชี้แจงว่าการอภิปรายรัฐมนตรีทั้งคณะ มีข้อดีและข้อเสียที่ต่างกัน ซึ่งการอภิปรายนายกรัฐมนตรีก็หมายรวมถึงการอภิปรายคณะรัฐมนตรีทั้งคณะแล้ว ซึ่งการอภิปรายทางคณะจะกระทบกับคนที่ทำงานดี ส่วนการอภิปรายเฉพาะตัวบุคคล จะสามารถชี้ชัดการทำงานได้มากกว่า ว่าใครคือจุดอ่อนที่ต้องสกัด หรือใครคือจุดแข็งที่ต้องรักษาไว้
นายสุทิน ยังกล่าวถึง คำร้องที่ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2563 มีความชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ จากเหตุที่ ส.ส. เสียบบัตรแทนกัน ว่า คำร้องได้ยื่นไปใน 2 ประเด็นคือ ความผิดในตัวบุคคล และสถานะของร่างกฎหมายฉบับนี้ โดยส่วนตัวเชื่อว่าร่างกฎหมายฉบับนี้จะเป็นโมฆะ ซึ่งหากศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ว่าร่างกฎหมายนี้ตกไป ก็ต้องหาทางออกกันต่อไป ซึ่งหากจะต้องพิจารณาร่างกฎหมายฉบับใหม่ แต่ไม่เห็น หากจะมีการพิจารณาใน 3 วาระรวด แต่ทั้งนี้จะมีการหารือร่วมกันในพรรคฝ่ายค้าน
“สำหรับแนวทางการแก้ปัญหาการเสียบบัตรแทนกันของส.ส. นั้นในอนาคต เมื่อห้องประชุมใหญ่แล้วเสร็จจะมีการระบุที่นั่งของส.ส.แต่ละคนจึงทำให้ไม่สามารถเสียบบัตรแทนกันได้ และเชื่อว่าการลงโทษส.ส.ในครั้งนี้จะเป็นบทเรียนให้กับส.ส.ในสภาฯ” นายสุทิน กล่าว