ประธานกลุ่ม WHA Group “จรีพร จารุกรสกุล”ควักเงิน 84.75 ล้านบาท เก็บหุ้น WHA จำนวน 26.36 ล้านหุ้นในราคาหุ้นละ 3.32 บาทและ 3.16 บาท สร้างความเชื่อมั่นผู้ถือหุ้นและนักลงทุน ยันปัจจัยพื้นฐานไม่เปลี่ยนแปลง ส่งซิกลูกค้ารายใหญ่ต่างชาติสนใจเซ็นสัญญาซื้อที่ดินในนิคมอุตฯต่อเนื่อง เหตุหนีสงครามการค้าที่ยืดเยื้อ ขณะที่โครงสร้างพื้นฐานอีอีซีคืบหน้า ระบุมั่นใจ 5 ปี ผลงานทั้ง Group เติบโตโดดเด่นต่อเนื่อง จ่อแถลงยุทธศาสตร์ปี 63 ปูทางผู้นำโลจิสติกส์ นิคมอุตสาหกรรม สาธารณูปโภค พลังงานครบวงจรในอาเซียน น.ส.จรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัทดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ WHA Group เปิดเผยว่า ในช่วงวันที่ 21-22 ม.ค.63 ได้ทยอยเข้ามาซื้อหุ้น WHA จำนวน 26.36 ล้านหุ้นที่ระดับราคา 3.32 บาท และ 3.16 บาท หรือประมาณ 84.75 ล้านบาท ซึ่งการตัดสินใจในการเข้าซื้อหุ้นครั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ถือหุ้น และนักลงทุน หลังจากที่ราคาหุ้นได้มีการปรับตัวลดลงต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานท่ามกลางกระแสความกังวลต่างๆที่เข้ามากระทบกับความเชื่อมั่นตลอดในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ทั้งนี้ขอยืนยันว่าผลประกอบการบริษัทมีศักยภาพการเติบโตได้ในระยะยาว ซึ่งบริษัทตั้งเป้าอัตราการเติบโตในระยะ 5 ปี(2562-2566) มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตเพิ่มขึ้นของกลุ่มบริษัทฯ ทั้ง 4 ธุรกิจหลักประกอบด้วย ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม,ธุรกิจโลจิสติกส์,ธุรกิจสาธารณูปโภคและพลังงาน และธุรกิจดิจิทัลแพลตฟอร์ม รวมถึงส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ "การเข้าซื้อหุ้น WHA ครั้งนี้ อยากให้เป็นสิ่งสะท้อนว่า ผู้บริหารยังมีความเชื่อมั่นกับทิศทางธุรกิจ ที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าในช่วงระยะสั้นกลุ่มนักลงทุนจะเกิดกระแสความกังวลเกี่ยวกับธุรกิจของบริษัทที่ถูกมองว่า อาจจะได้รับผลกระทบจากกลุ่มทุนต่างชาติชะลอตัดสินใจซื้อที่ดินในนิคมอุตสาหกรรม แต่วันนี้ในฐานะ Group CEO ขอยืนยันว่า มีกลุ่มทุนต่างชาติเข้ามาเจรจาซื้อที่ดินของบริษัทเป็นจำนวนมาก และอยากให้นักลงทุนเชื่อมั่นศักยภาพเติบโตของผลประกอบการบริษัท” โดยที่ผ่านมาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า อัตราการเติบโตของรายได้และกำไรในช่วงอดีตที่ผ่านมา มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกๆปี และมีการจ่ายปันผลสม่ำเสมอ ในขณะเดียวกันบริษัทมุ่งให้ความสำคัญกับการวางยุทธศาสตร์ในแต่ละธุรกิจ เพื่อช่วยกระจายความเสี่ยง และสร้างโอกาสการต่อยอดการเติบโตในอนาคต อีกทั้งบริษัทยังมีแผนขายทรัพย์สินเข้ากองทรัสต์ทุกปี ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้ Group อย่างมีนัยสำคัญ สำหรับแนวโน้มธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมนั้น โดยส่วนตัวมองว่า ยังมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีกระแสความกังวลว่านักลงทุนต่างชาติ อาจมีการชะลอการเข้ามาลงทุนในการซื้อที่ดินในเขตนิคมอุตสาหกรรมในประเทศไทย ซึ่งเป็นผลจากความไม่เชื่อมั่นกับแผนโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)ของรัฐบาลที่มองว่าอาจมีการล่าช้ากว่ากำหนด ซึ่งเป็นเรื่องปกติของโครงการขนาดใหญ่ “ปัจจุบันมีกลุ่มนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่อีกหลายรายที่ยังคงมีความเชื่อมั่นถึงศักยภาพการเติบโตของประเทศไทยที่ทยอยเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่องโดยจะเห็นได้จากในช่วงปลายปีที่ผ่านมา บริษัทได้ส่งมอบที่ดินและโรงงานให้เช่า ให้กลุ่มลูกค้าต่างชาติรายใหญ่หลายราย ส่งผลให้สัดส่วนรายได้จากค่าเช่าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลบวกกับแผนการขายทรัพย์สินของบริษัทให้กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าต่อไปในอนาคต” ทั้งนี้ล่าสุดมีกลุ่มทุนต่างชาติหลายรายอาทิ กลุ่มทุนประเทศจีน,ไต้หวัน และญี่ปุ่นเข้ามาเยี่ยมชม และอยู่ระหว่างเจรจาซื้อที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมของบริษัทฯเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมยานยนต์ คอนซูเมอร์ และอิเล็กทรอนิกส์ แม้ว่าเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนจะผ่อนคลายไปบ้างจากการลงนามข้อตกลงในเฟสแรก แต่เชื่อว่านโยบายการตั้งกำแพงภาษีน่าจะยืดเยื้อต่อไปอีกหลายปี ขณะที่เศรษฐกิจจีนเติบโตอย่างมากในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา นโยบายทางการจีนสนับสนุนผู้ประกอบการลดลง ส่งผลให้บริษัทขนาดใหญ่หลายแห่ง ต้องโยกย้ายฐานการผลิตเข้ามาลงทุนในประเทศอาเซียน ซึ่งไทยนับเป็นหนึ่งในตัวเลือกอันดับต้นๆหลังจากโครงสร้างพื้นฐานหลักพัฒนาโครงการ EEC มีความคืบหน้าเป็นรูปธรรมมากขึ้นอาทิ โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก และโครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะ 3 เป็นต้น ขณะเดียวกันในวันที่ 29 ม.ค.63 ทีมคณะผู้บริหารของ WHA Group เตรียมเปิดแถลงแผนยุทธศาสตร์ปี 2563 อย่างเป็นทางการ เพื่อกำหนดนโยบายและแนวทาง ในการขยายและต่อยอดการลงทุนขยายฐานบริการด้านต่าง ๆ ให้ครบวงจรในแต่ละธุรกิจ เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านโลจิสติกส์ นิคมอุตสาหกรรม สาธารณูปโภคและพลังงานแบบครบวงจรในอาเซียน