เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 23 ม.ค. ร.ต.อ อรรณพ สีเขียว รองสว.(สอบสวน)สน.ลำผักชี รับแจ้งพบศพชายถูกยิงเสียชีวิตอยู่ภายในรถกระบะ สุดซอยเชื่อมสัมพันธ์ 25 แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชารุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.ศักยะ แสงวรรณ ผกก.สน.ลำผักชี พ.ต.ท.สมคิด ตันสกุล รอง ผกก.( สอบสวน ) สน.ลำผักชี ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร รพ.ตร. และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุอยู่ข้างถนนริมป่ากล้วยติดกับคลองลำต้นกล้วย สุดซอยเชื่อมสัมพันธ์ 25 พบรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมค สีบรอนส์ หมายเลขทะเบียน 1 ฒน 5084 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ จากการตรวจสอบพบกระจกรถด้านคนขับเปิดอยู่ภายในรถพบศพ พ.ต.อ.สวัสดิ์ เย็นประสิทธิ์อายุ 62 ปี อดีต ผกก.(สอบสวน)กลุ่มงานสอบสวนภ.จว.ชลบุรี สวมเสื้อโปโลแขนสั้นสีเขียวนุ่งโสร่งลายขวางสีแดง สวมหมวกกะปิเยาะห์ ( หมวกละหมาด ) สีขาว นั่งเสียชีวิตอยู่ในที่นั่งคนขับ ลำตัวเอียงไปทางซ้ายศรีษะพาดกับเบาะที่นั่งข้างคนขับ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. จำนวน 1 นัด ที่ขมับขวาทะลุขมับซ้าย เลือดไหลนองเต็มเสื้อ ในมือขวากำอาวุธปืนพกสั้นยี่ห้อ กล็อกขนาด 9 มม. มีปอกกระสุมปืนตกอยู่ใต้เบาะ 1 ปลอกเจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากการสอบสวนนางวาสนา อุตสาหะ อายุ 59 ปี น้องสาวผู้เสียชีวิต ให้การว่าก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 09.00 น. พี่ชายเดินทางมาที่บ้านพร้อมพูดจาแปลกๆ ก่อนเดินออกจากบ้านไป จนกระทั้งเวลาประมาณ 10.00 น. พี่ชายนำบัตรเอทีเอ็มมาฝากไว้ พร้อมกับบอกเกี่ยวกับทรัพย์สินว่ามีอะไรบ้าง อะไรให้ใครบ้าง ซึ่งตนเองก็ตกใจ และเป็นห่วงจึงบอกกับพี่ชายไปว่าวันนี้ให้มาพักที่บ้าน และเอาปืนมาฝากไว้แต่พี่ชายบอกว่าปืนไม่มีลูกหรอกจะกลัวอะไร ซึ่งตนก็ยังบอกว่าทำอะไรให้ห่วงลูกบ้าง และไปๆมาๆที่บ้านอีกหลายครั้ง ซึ่งครั้งสุดท้ายพี่ชายเข้ามาหาอีกครั้งโดยใส่โสร่ง สวมหมวกกะปิเยาะห์ ( หมวกละหมาด ) พร้อมบอกว่าใครไม่เป็นโรคแบบนี้ไม่รู้หรอก ก่อนจะขับรถออกไป จนกระทั่งเวลา 15.00 น. ตนได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด เมื่อเดินออกมาดูพบรถพี่ชายจอดอยู่ที่จอดรถข้างป่ากล้วยห่างจากบ้านประมาณ 10 เมตร โดยประตูรถด้านคนขับเปิดอยู่ตนจึงเข้ามาดูก็พบว่าพี่ชายมีรอยเลือดที่ขมับขวา ที่มือมีปืนอยู่จึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ นางวาสนา ให้การต่อว่า พี่ชายตนเองป่วยเป็นโรคซึมเศร้ามานานกว่า 20 ปี รักษาตัวอยู่รพ.ในจ.ชลบุรี เมื่อพี่ชายเกษียณอายุราชการเมื่อปี 61 ก็กลับมาอยู่บ้านไม่ได้ทำงานอะไร ตลอดเวลาพี่ชายไม่เคยเอาเรื่องงานมาพูดให้คนในบ้านทราบ ตลอดเวลาทางบ้านก็เป็นห่วงอาการป่วยมาตลอดแต่ไม่คิดว่าจะคิดสั้นแบบนี้ เบื้องต้นทางญาติไม่ติดใจการเสียชีวิต ก่อนนำร่างส่งสถาบันนิติเวชรพ.ตร. ชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนส่งมอบญาตินำศพกลับไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอิสลามต่อไป //////:////