วันที่ 23 มกราคม ที่ห้องประชุมศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อม พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย,พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์,พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร.,พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผช.ผบ.ตร.,พล.ต.ท.วิเชียร ตันตะวิริยะ ผบช.สพฐ.ตร.,พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1,พล.ต.ต.สิทธิชัย โล่กันภัย รอง ผบช.ก.,พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1,พล.ต.ต.ณัฐพล ศุกระศร ผบก.ภ.จว.ลพบุรี และ พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย ผบก.สส.บช.น.แถลงผลการจับกุมนายประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือกอล์ฟ ผู้อำนวยการโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งใน จ.สิงห์บุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาในข้อหา ข้อหา “ฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการหรือเพื่อความสะดวกที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น, ฆ่าผู้อื่นเพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์ อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่น หรือ หลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้, พยายามฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการหรือเพื่อความสะดวกที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น, ชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืนและยานพาหนะเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ยิงปืนโดยใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้าน หรือที่ชุมชน, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยเปิดเผย โดยไม่มีเหตุสมควร, มีและใช้อาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้และมียุทธภัณฑ์ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” คดีใช้อาวุธปืนชิงทรัพย์ทองคำน้ำหนักกว่า 28 บาท เป็นเงินมูลค่า 6.8 แสนบาท ไปจากร้านทองออโรร่า สาขาห้างโรบินสัน จ.ลพบุรี เมื่อวันที่ 9 มกราคม ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บสาหัส 4 ราย หลังนำตัวจากสถานีตำรวจท่องเที่ยว 2 จ.ลพบุรี มาคุมขังที่กองบังคับการปราบปรามเมื่อเวลา 04.00 น.ที่ผ่านมา สำหรับการควบคุมตัวนายประสิทธิชัย จากกองบังคับการปราบปรามมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน แต่ผู้บังคับบัญชาพิจารณาแล้วเกรงว่าจะเป็นการกระทบสิทธิผู้ต้องหา จึงใช้วิธีให้ผู้ต้องหาโฟนอินตอบคำถามสื่อมวลชนแทน นายประสิทธิชัย กล่าวว่า สำหรับมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุมาจากปัญหาส่วนตัวและปัญหาเรื่องการเงินของตัวเอง ส่วนที่มีการก่อเหตุยิงพนักงานร้านทอง ลูกค้าที่มาซื้อทอง และน้องไตตัล จนมีผู้เสียชีวิตถึง 3 ราย นั้น เป็นการยิงเพื่อเปิดทางและทำให้กลัว ตนวางแผนล่วงหน้ามาแล้ว 2-3 วัน ยืนยันว่าตนไม่รู้จักและมีความขัดแย้งกับ น.ส.ธิดารัตน์ หรือ กวาง ทองทิพย์ พนักงานร้านทองที่เสียชีวิต ตามที่มีกระแสข่าว ส่วนที่มีการยิงซ้ำนั้น ตอนตนปีนขึ้นไปบนตู้กระจกขณะที่ได้หันปลายกระบอกปืนไปที่น.ส.ธิดารัตน์ เนื่องจากถุงมือที่ใส่อยู่ไปขัดในไกปืน ตนพยายามดึงถุงมือให้ขยับออกทำให้ปืนยิงออกไป 2 นัด ลักษณะเหมือนกระตุกมือเข้าไปพันในไกปืน ส่วนกรณียิงน้องไตตัล ยืนยันว่าตนไม่เห็น ตนตั้งใจยิงรปภ.ของห้างเพื่อเปิดทาง คิดว่าลูกกระสุนน่าจะแฉลบไปโดนน้องไตตัล ผมไม่ได้ตั้งใจยิงเด็ก หลังก่อเหตุรู้สึกสำนึกผิด และเสียใจในการกระทำ ทั้งนี้ หลังก่อเหตุตนมีความคิดที่จะมอบตัว แต่ไม่ได้ปรึกษากับใคร เพราะตนก่อเหตุเพียงคนเดียว ไม่ได้ร่วมวางแผนกับใคร โดยตนเองตั้งใจจะมอบตัวในวันที่ 24 มกราคม นี้ เนื่องจากตนติดภารกิจที่โรงเรียนที่ต้องทำให้นักเรียน นายประสิทธิชัย กล่าวอีกว่า"นัดแรกตั้งใจยิงเพื่อเปิดทาง ไม่ให้ใครเข้ามาใกล้ แต่ลูกกระสุนน่าจะโดนรปภ.แล้วพลาดไปโดนน้องไตตัล อยากฝากไปถึงครอบครัวผู้เสียชีวิต ผมอยากกล่าวคำว่าเสียใจและขอโทษ โดยเฉพาะน้องไตตัล และพนักงานผู้หญิง รวมถึงทุกคนที่ผมได้ยิง"นายประสิทธิชัย กล่าวและว่า ส่วนที่มีการตั้งคำถาามว่าเหตุใดหลังก่อเหตุตนเองกลับไปใช้ชีวิตอย่างสุขสบายนั้น ตนพยายามทำตัวให้ปกติ และไม่ได้คิดหนี ในใจทุกครั้งที่เห็นข่าวก็เสียใจกับการกระทำ ส่วนสาเหตุที่ใช้ปืนที่ติดท่อเก็บเสียง เพราะต้องการไม่ให้เกิดเสียงดัง ไม่ต้องการให้ผู้คนตื่นตระหนก ซึ่งท่อเก็บเสียงสั่งมาจากเพื่อรุ่นน้องทางอินเตอร์เน็ต เมื่อถามถึงเหตุผลที่มีการยิงซ้ำ ทั้งที่ตอนแรกตั้งใจยิงเพื่อเปิดทาง นายประสิทธิชัย กล่าวว่า ตอนแรกตนได้ยิงตู้กระจกไปสองนัด ไม่คิดว่ากระสุนจะไปโดนพนักงานผู้หญิง แล้วพอไปเจอลูกค้าผู้ชายและผู้หญิง เหมือนกระทำไปแล้ว และอารมณ์ก็หลุดไปแล้ว ตนก็เสียใจ และอยากขอโทษด้วย สำหรับกรณีที่มีกระแสข่าวว่าอยากตายดังๆ ตามที่มีสื่อมวลชนนำเสนอนั้น นายประสิทธิชัย กล่าวว่า ยืนยันว่าสาเหตุที่ตนก่อเหตุมาจากปัญหาเรื่องส่วนตัว และเรื่องการเงิน ไม่ได้เป็นไปตามที่สื่อมวลชนนำเสนอข่าวแต่อย่างใด พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวว่า ที่สังคมตั้งคำถามว่าเป็นการจับแพะหรือไม่ ตนขอเรียนว่า ตนไม่ใช่กรมปศุสัตว์ ไม่เคยจับแพะจับแกะ ตนเป็นตำรวจ จับแต่โจรผู้ร้ายดูแลประชาชน ที่ผ่านมาคดีใหญ่ๆ ก็จับแต่ของจริง วันนี้คดีเสร็จสิ้นแล้วทีผ่านมาได้รับกำลังใจจากนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีให้ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ท่านถามตลอด ตนก็รายงานตลอด คดีนี้ทุ่มสรรพกำลังทุกอย่างเพื่อให้ได้ตัวคน้รายเร็วที่สุด เรียกความเชื่อมั่นจากประชาชน สำหรับตัวผู้ต้องหาที่เป็นถึงผู้อำนวยการก็ไม่เหนือความคาดหมายมาก ไมได้ตัดประเด็นทิ้งตั้งแต่แรก แต่เชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่าตำรวจ ทหารไม่น่าจะยิง ที่ผู้สื่อข่าวถามว่าทำไมไม่ค้นปืนบ้านพ่อผู้ต้องหาด้วย เราไม่อยากให้ของกลางเคลื่อนที่ ซึ่งหลังก่อเหตุคนร้ายก็ทิ้งซิกเนเจอร์ไว้จำนวนมากเช่นกัน ตนบอกในที่ประชุมทุกครั้งวันที่เราจับได้เป็นวันที่เราประสบความสำเร็จ โดยเมื่อวานนี้จากการสอบปากคำผู้ต้องหามีบางส่วนที่จริงใจบ้าง ทีมงานเรามีประสบการณ์ในการรับฟัง หลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อส่งฟ้องผู้ต้องหาต่อไป พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า พยานหลักฐานที่ได้อาวุธปืนในการก่อเหตุ และทองรูปพรรณที่ได้จากบ้านพ่อผู้ต้องหา ที่ขาดอยู่คือลำกล้องและท่อเก็บเสียง อยู่ระหว่างงมหาในแม่น้ำ จากการสอบสวนจนถึงขณะนี้ยังไม่พบว่ามีคนอื่นเกี่ยวข้องช่วยเหลือ แต่ก็ยังสืบสวนต่อ ส่วนหลักฐานที่นำมาสู่การออกหมายจับคนร้าย ได้มากองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ยืนยันเรื่องวัตถุพยาน และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์สนับสนุน แต่ไม่มีหลักฐานที่เป็นดีเอ็นเอของเหงื่ออย่างที่เป็นข่าว โดยรายละเอียดต่างๆ รวมถึงข้อมูลผู้ชี้เบาะแสเป็นความลับอยู่ในสำนวนไม่สามารถเปิดเผยได้ สำหรับอาวุธปืนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุเป็นของพ่อ แต่ยังไม่พบว่าพ่อมีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งข้อมูลปืน cz p-01เข้ามาในเมืองไทย 1 แสนกว่ากระบอก รุ่นนี้มีเป็นพันกระบอก การจะตรวจสอบต้องมีเหตุพอสมควร อยู่ดีๆ จะไปตรวจสอบไม่ได้ ส่วนคำให้การของผู้ต้องหานั้น ต้องแยกคำให้การกับหลักฐานออกจากกัน คำพูดเรื่องเหตุจูงใจจะเกิดจากอะไรจริงเท็จยังไม่ทราบ คำพูดเปลี่ยนไปได้เรื่อยๆ เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา แต่ตำรวจยืนยันตามกรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา การที่เขาเดินเข้าไปเอาปืนยิงคนตาย เอาทองไปเก็บไปซุกซ่อน แล้วถูกจับ เราก็ฟันธงเลยว่าเขาเจตนาฆ่า เจตนาชิงทรัพย์ ส่วนคำกล่าวอ้างก็เป็นเรื่องของเขา เพราะฉะนั้นขอให้ชัดเจนว่าเราตั้งข้อหาตามการกระทำ ไม่ได้ตั้งข้อหาเพราะเขาพูดว่าอะไร ซึ่งขณะนี้ผู้ต้องหารับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่น,ชิงทรัพย์,ครอบครองอาวุธปืน แต่ถ้าวันหลังมีข่าวมาบอกว่าอยากฆ่าตัวตาย เราไม่ได้ไปฟังตรงนั้น เราก็ต้องฟันธงสาเหตุที่เขาลงมือทำว่าประสงค์ต่อทรัพย์ ไม่มีเรื่องอื่น ส่วนตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานถึงคนอื่น หากมีเพิ่มก็ต้องเอาด้วย โดยวันนี้ภายหลังการแถลงข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวนายประสิทธิชัย ไปฝากขังครั้งแรกที่ศาลอาญาต่อไป พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รองผบก.ป. กล่าวว่า การสืบสวนครั้งนี้ได้รับการประสานงานกับทุกหน่วยอย่างใกล้ชิดทั้งตำรวจภูธรภาค 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน บช.น. จนได้ข้อมูลที่ไปถึงตัวผู้ต้องหาได้ ตำรวจมีฐานข้อมูลเก่า เลยทำให้ได้ตัวเป้าหมายมาระยะเวลาหนึ่ง จากการเฝ้าสังเกตุการณ์น่าเชื่อว่าผู้ต้องหารายนี้จะเป็นคนร้าย จึงรวบรวมพยานหลักฐานเสนอศาลออกหมายจับ จากนั้น ผบ.ตร.เดินดูพยานหลักฐาน โดยได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่คนร้ายสวมใส่ในวันก่อเหตุมาจำลองให้สื่อมวลชนดู พร้อมหยิบตัวอย่างพยานหลักฐานที่ตรวจยึดได้จากผู้ต้องหา เช่น กางเกงลายพราง ทองรูปพรรณ ถุงมือ และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์นำมาอธิบายต่อหน้าสื่อดังกล่าว