ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์ภาคเช้าวันนี้(23 ม.ค.)ดัชนีปิดที่1,569.63 จุด ลดลง 4.96 จุด (-0.32%) มูลค่าการซื้อขาย 32,766.85 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,577.92 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,567.10 จุด นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ออกด้านข้าง เนื่องจากตลาดฯไม่มีปัจจัยบวกหนุน โดยหุ้นที่ปรับตัวขึ้นก็เป็นกลุ่มเดิมๆทั้งหุ้นในกลุ่มโรงพยาบาล และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นบวก ส่วนหุ้นในกลุ่มไฟแนนซ์ก็ฟื้นตัวดีขึ้น ขณะที่หุ้นในกลุ่มพลังงาน และกลุ่มปิโตรเคมี รวมถึงกลุ่มโรงกลั่น ถ่วงตลาดฯ อีกทั้งยังต้องติดตามความคืบหน้าเรื่องงบประมาณปี 63 ซึ่งจะมีการส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความในกรณีของการเสียบบัตรแทนในการโหวตงบปี 63 ขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ติดลบกันค่อนข้างแรง โดยเฉพาะตลาดหุ้นญี่ปุ่น,ตลาดหุ้นจีน และตลาดหุ้นฮ่องกง โดยตลาดบ้านเราติดลบน้อยกว่า ซึ่งปัจจัยหลักตอนนี้ต่างก็เฝ้าดูเรื่องโรคระบาดปอดอักเสบว่าจะมีการแพร่ระบาดมาก/น้อยแค่ไหนหลังจากที่จีนได้ปิดเมืองอู่ฮั่นไปแล้วเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด โดยเมืองอู่ฮั่นของจีนประกาศระงับการบริการขนส่งสาธารณะขาออกทั้งทางบกและทางอากาศ นอกจากนี้ให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB)ในวันนี้ และการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในสัปดาห์หน้าแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่าย ดัชนีฯคงจะแกว่ง Sideway ถึง Sideway Down โดยมีแนวรับ 1,565 จุด ส่วนแนวต้าน 1,580 จุด สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ได้แก่ BAM มูลค่าการซื้อขาย 2,214.48 ล้านบาท ปิดที่ 26.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง,GPSC มูลค่าการซื้อขาย 1,649.99 ล้านบาท ปิดที่ 95.25 บาท ลดลง 1.00 บาท,TOP มูลค่าการซื้อขาย 1,360.59 ล้านบาท ปิดที่ 54.25 บาท ลดลง 3.75 บาท,BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,314.10 ล้านบาท ปิดที่ 25.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท,PTTEPมูลค่าการซื้อขาย 1,188.10 ล้านบาท ปิดที่ 129.00 บาท ลดลง 2.00 บาท