กระทรวงสาธารณสุขจับมือสมาคมวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์ฯ สร้างนักศึกษา “จิตอาสา PM.2.5” ออกหน่วยเช็คสภาพรถยนต์ ลดควันดำ ร่วมแก้ปัญหาการลดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ไม่เสียค่าใช้จ่าย เตรียมจัดประกวดนวัตกรรมเพื่อลดฝุ่น วันนี้ (22 มกราคม 2563) ที่วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม กทม. ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงสาธารณสุข นายธนิตพล ไชยนันทร์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย ดร.อดิศร สินประสงค์ นายกสมาคมวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา เอกชนแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์ฯ และรศ.ดร.จอมพงศ์ มงคลวนิช ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม พร้อมคณะผู้บริหาร ประชุมหารือแนวทางการลดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM.2.5)เยี่ยมชมศูนย์ปฏิบัติการสาขาช่าง ยนต์ ของวิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม เพื่อชมการสาธิตการดูแลรักษารถยนต์เพื่อลดฝุ่นละออง และชมการสาธิต นวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ ของนักศึกษาอาชีวศึกษาที่พัฒนาขึ้นเพื่อช่วยลดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM.2.5) ดร.สาธิต ให้สัมภาษณ์ว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์ PM.2.5 กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายที่จะต้องดูแล สุขภาพประชาชน มีมาตรการที่สำคัญ ได้แก่เปิดหน่วยบริการสุขภาพจิตและ “คลินิกมลพิษ” จำนวน 2 จุด ในวันที่ 23 มกราคม 2563 บริเวณที่มีค่า PM.2.5 เกินค่ามาตรฐาน ได้แก่ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และท่าน้ำนนทบุรี โดยหน่วยเคลื่อนที่มีการบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย กรมอนามัย กรมการแพทย์และกรมสุขภาพจิต ในการให้ข้อมูล คำปรึกษา แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM.2.5) พร้อม แจกหน้ากากอนามัย N95 ให้ผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง หญิงตั้งครรภ์ แม่และเด็ก และผู้สูงอายุ และผู้ที่ทำงานกลางแจ้งณ บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โรงพยาบาลราชวิถี และสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี นอกจากนี้ยังได้รับ ความร่วมมือจากสมาคมวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทยฯ สร้าง “จิตอาสา PM.2.5” ร่วมออกหน่วยเคลื่อนที่ให้บริการตรวจสภาพรถยนต์และบำรุงรักษา เช่น การล้างท่อไอเสีย เพื่อลดควันดำและฝุ่นละออง ไม่เสียค่าใช้จ่าย เริ่มดำเนินการตรวจสภาพรถยนต์ทางราชการและรถบุคคลส่วนกลาง และจะขยายไปยังหน่วยงานในสังกัด สธ. ทั่วประเทศต่อไป “วันนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่จะร่วมมือกันเพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก ระหว่างกระทรวงสาธารณสุขกับสมาคมอาชีวะเอกชนฯ เป็นการเริ่มต้นจัดการตนเองไม่ให้เป็นภาระหรือมีผลกระทบกับสถานการณ์ PM.2.5 ” ดร.สาธิต กล่าว ทั้งนี้ เพื่อเป็นการช่วยกันแก้ปัญหามลพิษของประเทศ ได้เปิดโอกาสให้นักศึกษาคิดค้นนวัตกรรมที่ช่วยประชาชนดูแลตนเอง ประกวดทำสื่อเพื่อให้ความรู้ในทุกช่องทางกับประชาชนทั่วไป ซึ่งเชื่อว่าสถานการณ์ PM.2.5 ยังอาจจะเกิดขึ้นอีกและเป็นเรื่องพื้นฐานที่ประชาชนต้องทราบ ต้องติดตามสถานการณ์และดูแลตนเอง