ยโสธรชาวบ้านร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนหลังจากได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาตลิ่งริมลำห้วยถูกกระแสน้ำกัดเซาะและทรุดตัวจนพังทลายกินพื้นที่นาข้าวเป็นระยะทางยาวต่อเนื่องหลายปีเคยร้องเรียนผ่านหน่วยงานราชการหลายหน่วยงานรวมทั้งร้องผ่านศูนย์ดำรงธรรมและ อบต.แต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขแต่อย่างใด นายเทิดศักดิ์ ผลจันทร์ อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53 หมู่ 9 บ้านคำครตา ตำบลดงมะไฟ อำเภอทรายมูล จังหวัดยโสธร พร้อมด้วยชาวบ้านจำนวนหนึ่งได้ร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนพร้อมกับได้นำลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพพื้นที่ภายหลังจากได้รับความเดือดร้อนจากตลิ่งริมลำห้วยไผ่ ทรุดตัวและพังทลายกินพื้นที่นาข้าวของชาวบ้านตามแนวตลิ่งลำห้วยไผ่ตลอดสาย จำนวนหลายจุดแต่ละจุดกินพื้นที่นาของชาวบ้านไม่ต่ำกว่า 5-6 เมตร เนื่องจากถูกกระแสน้ำในฤดูน้ำหลากกัดเซาะ โดยชาวบ้านมองว่าสาเหตุหลักที่ทำให้กระแสน้ำในลำห้วยไผ่กัดเซาะจนตลิ่งทรุดตัวหลายจุด เพราะการก่อสร้างบล็อกเวย์ที่ไม่ตรงทิศทางตามแนวลำห้วยประกอบกับความคดเคี้ยวตามธรรมชาติของลำห้วยจึงทำให้กระแสน้ำเปลี่ยนทิศทางเมื่อมีน้ำหลากไหลเชี่ยวในลำห้วยและไหลผ่านบล็อกเวย์ดังกล่าวจึงทำให้กระแสน้ำเปลี่ยนทิศทางแล้วไปกัดเซาะริมตลิ่งลำห้วยจนพังทลายลงเป็นประจำทุกปีและส่งผลให้กินพื้นที่นาของชาวบ้านลงไปเรื่อยๆจนเจ้าของที่นาได้รับความเดือดร้อน ซึ่งก่อนหน้านี้ชาวบ้านเคยร้องเรียนผ่านหน่วยงานราชการหลายหน่วยงานทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่รวมทั้งศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดยโสธร แต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขแต่อย่างใด จนต้องเข้าร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนเพื่อให้เป็นสื่อกลางในการเร่งรัดให้ช่วยราชการที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการแก้ไขให้กับชาวบ้านด้วย นายเทิดศักดิ์ ผลจันทร์ บอกว่า พื้นที่นาของตนถูกตลิ่งลำห้วยไผ่ทรุดตัวกินพื้นที่เข้ามาไม่ต่ำกว่า 6 เมตร เป็นระยะทางยาวกว่า 10 เมตร ในช่วงระยะเวลาประมาณ 7 ปี ที่ผ่านมา เนื่องจากปัญหาหลักที่ทำให้กระแสน้ำในลำห้วยไผ่ในช่วงฤดูน้ำหลากได้กัดเซาะตลิ่งลำห้วยพังทลายกินพื้นที่นาของตนนั้นมาจากการก่อสร้างบล็อกเวย์ขวางลำห้วยเพื่อให้ชาวบ้านสามารถใช้เดินทางข้ามฝั่งไปมาได้ โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ให้ผู้รับเหมาเข้าดำเนินการก่อสร้างเมื่อประมาณปี 2555 แต่การก่อสร้างบล็อกเวย์ดังกล่าวทางน้ำไหลผ่านไม่ตรงตามแนวของลำห้วยจึงทำให้กระแสน้ำเปลี่ยนทิศจนไปกัดเซาะเอาแนวตลิ่งติดกับพื้นที่นาของตนจนพังทลายลงไปทุกปีจนขณะนี้กินพื้นที่นาของตนไปกว่า 6 เมตร แล้ว ซึ่งก่อนจะมีการก่อสร้างบล็อกเวย์กระแสน้ำก็ไหลตามลำห้วยตามปกติไม่ปรากฏว่าจะกัดเซาะริมตลิ่งมาก่อน โดยในระหว่างการก่อสร้างตนก็เคยเข้าไปท้วงติงผู้รับเหมาว่าบล็อกเวย์ดังกล่าวไม่ตรงตามแนวลำห้วยอาจจะส่งผลกระทบในภายหลังได้แต่ผู้รับเหมาอ้างว่าได้ดำเนินการก่อสร้างตามแบบแปลนที่วิศวะกรออกแบบมา จนก่อสร้างเสร็จเมื่อถึงฤดูน้ำหลากกระแสน้ำก็เริ่มกัดเซาะริมตลิ่งลำห้วยเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากพื้นที่นาของตนแล้วยังมีพื้นที่นาของคนอื่นอีกกว่า 10 ราย ที่ได้รับผลกระทบจากแนวตลิ่งทรุดตัวกินพื้นที่นาของตน จึงอยากฝากไปถึงหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องได้เร่งเข้าไปดำเนินแก้ไขให้กับชาวบ้านโดยการทำเขื่อนป้องกันตลิ่งพังทลายตลอดแนวลำห้วยไผ่ด้วย 0000000000 สมหมาย/ยโสธร