วันที่ 21 ม.ค.63 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ขอเปิดเผยถึงข้อมูลกรณีมีการแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัส ว่า จากกรณีที่กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค รายงานสรุปสถานการณ์โรคปอดอักเสบสงสัยจาก SARS สาธารณรัฐประชาชนจีน 3 มกราคม 2563 จาจากการรายงานข่าวของสำนักงานข่าวหลายแห่ง พบผู้ป่วยโรคปอดอักเสบ จากเชื้อไวรัส ที่อาจมีความเชื่อมโยงกับ SARS ในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ ทางตอนกลางของประเทศจีนในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา จำนวน 27 ราย ซึ่งมีอาการรุนแรง 7 ราย ซึ่งทางประเทศไทยยังมีความเสี่ยงในการที่จะมีการแพร่กระจายเชื้อ SARS เข้ามาได้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้เล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าว จึงได้มีการสั่งการให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. ให้ดำเนินการขับเคลื่อนปัญหาดังกล่าวอย่างใกล้ชิด โดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้มีกำหนดมาตรการและแนวทางการปฏิบัติในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคฯโดยให้ทุกหน่วย ที่มีการตรวจอนุญาตการเดินทางเข้า - ออก ราชอาณาจักร ให้ดำเนินการ ดังนี้ 1. เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจบุคคลที่เดินทางมาจากมืองคู่ฮั่น เข้ามาในประเทศไทย หากตรวจพบให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองประสานกับแพทย์ตวจคนเข้าเมือง หรือเจ้าพนักงานสาธารณสุขประจำด่านควบคุมโรคระหว่างประทศ เพื่อส่งตัวผู้โดยสารดำเนินการตามมาตรการทางสาธารณสุขต่อไป 2. ให้เจ้าหน้าที่ประจำช่องตรวจอนุญาทสังเกตพฤติกรรมของผู้ที่มารอรับการตรวจอนุญาตหากพบอาการต้องสงสัยที่อาจเข้าข่ายโรคปอดอักเสบ เช่น มีไข้สูงกว่า 38 องศาเซลเชียส ไอแห้ง วิ่งเวียนศีรษะ หรือหายใจลำบาก เป็นตัน ให้แนะนำไปทำการตรวจคัดกรองโรคฯ กับเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ หรือแพทย์ตรวจคนเข้าเมือง 3. ให้เพิ่มความเข้มในการตรวจสอบข้อมูลบัตร (ตม.6) ของผู้โดยสาร โดยเฉพาะขัอมูลที่พักอาศัยให้ครบถ้วน เพื่อประโยชนีในการติดตามตัวในภายหลั่ง กรณีพบว่ามีความเสี่ยงที่จะติดโรค 4.ให้เพิ่มความละเอียดรอบคอบ ในการตรวจอนุญาตบุคคลในกลุ่มประเทศที่มีการแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบ โดยให้ตรวจสอบแบบคำถาม (ต.8) ของด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ หากยังไม่ได้ผ่านการตรวจคัดกรองจากแพทย์ๆ ให้แนะนำผู้โดยสารให้ไปทำการตรวจคัดกรองจากเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ หรือแพทย์ตรวจคนเข้าเมือง ก่อนเข้ารับการตรวจอนุญาตเข้ามาในราชอาณาจักร 5.ให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองประจำคนตรวจคนข้าเมือง ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ด่นควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ หรือแพทย์ตรวจคนเข้าเมือง อย่างใกล้ชิด เพื่อประสานความร่วมมือ และสนับสนุนการดำเนินการตามมาตรการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว อย่างเต็มกำสังความสามารถและตามอำนาจหน้าที่ 6.ให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรงกับผู้ปวยที่ต้องสงสัยว่าติดเชื้อไวรัส และหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารคัดหลั่งเช่น เลือด หรือสิ่งของเครื่องใช้ของผู้ที่ต้องสงสัยว่าปวยจากโรคติดเชื้อไวรัส หากมีความจำเป็นที่จะต้องสัมผัสกับบุคคลดังกล่าวให้สวมอุปกรณ์ป้องกันร่างกาย เช่น สวมหน้ากากอนามัย และให้ล้างมือบ่อยๆ 7.ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นเอาใจใส่และตรวจตราสุขภาทของกำลังพลในสังกัดอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันการติตเชื้อ หากพบว่าเจ้าหน้าที่คนใดมีอาการไข้ขึ้นสูง หรือสงสัยว่าจะป่วยให้รีบดำเนินการส่งตัวให้แพทย์ตรวจรักษาต่อไป 8.ให้ผู้บังคับบัญชาและข้าราชการตำรวจในสังกัด ติดตามสถานการณ์การระบาดของโรคปอดอักเสบ และข่าวสารอื่นๆ อย่างต่อเนื่องจากด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ หรือเพทย์ตรวจคนเข้าเมืองรวมทั้งให้รายงานความเคลื่อนไหวต่างๆในช่วงเทศกาลตรุษจีน วันที่ 23 -25 ม.ค. 63 ที่จะมาถึงนี้ จะมีนักท่องเที่ยวเดินทาง เข้า-ออก ประเทศเป็นจำนวนมาก สตม. ได้บูรณาการกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ในการเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบ คัดกรอง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากประเทศจีน เพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบ ที่เกิดจากเชื้อไวรัส หากประชาชนมีข้อมูลที่เกี่ยวข้องหรือสงสัยเกี่ยวกับโรคระบาดสามารถโทรสอบถามข้อมูล หรือแจ้งข้อมูลได้ที่หมายเลขสายด่วน 1422 ของ กรมควบคุมโรค หรือ สายด่วน สตม. 1178 ได้ตลอด 24 ชม.