“อาจารย์ มธ.” จี้ ภาครัฐจำกัดปริมาณรถยนต์ – ลดเผาในที่โล่งแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ชี้รัฐบาลแก้ปัญหาแต่ปลายเหตุ แนะเอาอย่างจีนใช้รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เมื่อวันที่ 21 ม.ค.63 น.ส.วรรัตน์ ปัตรประกร อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้สัมภาษณ์กับทางหนังสือพิมพ์สยามรัฐถึงการแก้ปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ในขณะนี้ว่า จะสังเกตเห็นว่าขณะนี้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 จะเกิดซ้ำๆ ในช่วงเวลาเดิมๆ คือช่วงแล้ง และหนาว แต่ความจริงปัญหาฝุ่นอยู่กับเรามาโดยตลอด ดังนั้นต้องพยายามลดปัญหา หรือแก้ปัญหาฝุ่นที่เกิดขึ้นในระยะยาว ซึ่งแยกเป็น 2 ส่วน คือส่วนที่แก้ได้ และแก้ไม่ได้ ในส่วนที่แก้ไม่ได้นั้น เช่น ปัญหาเรื่องลมฟ้าอากาศที่เราไม่สามารถควบคุมได้ ปัญหาฝุ่นจะเลวร้ายยิ่งขึ้นในสภาพอากาศนิ่งๆ หรือไม่มีฝน สิ่งที่ทำได้คือต้องลดปัญหาฝุ่นจากต้นเหตุ ซึ่งต้นกำเนิดของฝุ่นหลัก ๆ มาจากรถยนต์ อุตสาหกรรม รวมถึงการเผาในที่โล่ง น.ส.วรรัตน์ กล่าวอีกว่า สำหรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาฝุ่น PM 2.5 อาจจะต้องเตรียมตัวรับมือ ทั้งการสวมใส่หน้ากาก หรืออย่างสถานศึกษาหากสถานการณ์ย่ำแย่มากขึ้นก็อาจจะต้องมีการหยุดเรียน ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาว อย่างกรณีรถยนต์อาจต้องมีการบำรุงรักษา เพื่อป้องกันควันดำ หรือฝุ่นละอองที่ออกมาจากรถยนต์ รวมถึงมีการจำกัดการใช้รถหากสถานการณ์รุนแรงมากขึ้น คงต้องใช้ยาแรงมากขึ้น ซึ่งต้องขอความร่วมมือให้ประชาชนหันมาใช้รถสาธารณะให้มากขึ้น ขณะที่ภาคอุตสาหกรรม ต้องบำรุงรักษาระบบบำบัดมลพิษทางอากาศให้อยู่ในสถานะที่ใช้งานได้ดี เพื่อไม่ซ้ำเติมปัญหาฝุ่นที่มีอยู่ ส่วนปัญหาการเผาไหม้ เช่น การเผาขยะ การเผาพืชผลทางการเกษตรที่ไม่ได้ใช้ ถือเป็นแหล่งกำเนิดของฝุ่นละอองเป็นจำนวนมาก คงต้องขอความร่วมมือประชาชนต่างพื้นที่ต่างจังหวัด “การแก้ปัญหา เราต้องทำเป็นลำดับขั้น โดยเริ่มจากการขอความร่วมมือในเรื่องการบำรุงรักษารถยนต์ เรื่องอุตสาหกรรม และถัดมาคือภาครัฐ ขณะนี้รัฐบาลยังแก้ปัญหาไม่จริงจัง และไม่เห็นผลที่ชัดเจน ส่วนใหญ่แก้ปัญหาปลายเหตุ เช่น ล้างถนน ฉีดพ่นละอองน้ำ หรือแนวคิดสร้างหอกำจัดฝุ่น อย่างไรก็ตามหากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น อาจจะต้องมีการแก้ปัญหาเรื่องการจำกัดการใช้รถ รวมถึงการแก้ปัญหาในระยะยาว อย่างประเทศจีนมีการใช้รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม เราจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงลักษณะการใช้รถยนต์ในเขตเมือง ปีนี้จะเห็นว่ามีการรณรงค์ไม่ใช้ถุงพลาสติกตามห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ เพราะจะเห็นปัญหาว่ามีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งครั้งนี้ก็ถึงเวลาที่เราจะต้องรณรงค์เพื่อตัวเองบ้าง เราต้องหาทางเพื่อลดการเกิดฝุ่นจะด้วยวิธีใดก็ตาม ถึงเวลาแล้วที่เราต้องมองเรื่องนี้แล้ว จะทำอย่างไรให้เรา และลูกหลานของเรามีอากาศที่ดีในอนาคต” น.ส.วรรัตน์