“วราวุธ”เผยชงครม.แก้วิกฤติฝุ่นPM2.5 ระยะสั้น ให้รถบรรทุกเข้ากทม.ชั้นในวันคู่ ถึงสิ้นเดือนก.พ.นี้ ขออภัยล่วงหน้า หากยังไม่สำเร็จ เล็งเพิ่มมาตรการให้รถยนต์ส่วนบุคคลหากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น ขอพื้นที่เกษตรลดการเผาช่วงอากาศปิด ม.ค.-ก.พ.วอนหันมาร่วมมือ มากกว่าเกรียนบนโลกออนไลน์ เมื่อเวลา 08.50 น.วันทีี่ 21 ม.ค.63 ที่ห้องประชุมเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 1 อาคารเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ต.โคกเคียน อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ(ครม.สัญจร) ถึงมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นPM 2.5 ที่จะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมครม.ว่า วันนี้มีหลายมาตรการค่อนข้างแตกต่างจากที่ผ่านมา โดยขอความเห็นชอบให้รถบรรทุกเข้ากทม.ชั้นในได้เฉพาะวันคู่ คือสลับวิ่งวันเว้นวันเนื่องจากปัญหาค่าฝุ่น PM 2.5 ส่วนใหญ่มาจากท้องถนน และต้องขอบคุณสมาคมรถบรรทุกที่ยอมเสียสละให้รถบรรทุกวิ่งเข้ากทม.วันเว้นวัน ทั้งนี้จะเป็นมาตรการระยะสั้นถึงสิ้นเดือนก.พ.ซึ่งเป็นช่วงวิกฤติที่ต้องมีมาตรการเข้มข้น และหากมาตรการดังกล่าวยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรคงจะเพิ่มความเข้มข้นเป็นระดับระดับต่อไป นายวราวุธ กล่าวว่า วอนชาวกทม. หากคุณภาพอากาศยังไม่ดีขึ้น หากมีมาตรการที่เข้มข้นกว่านี้ และกระทบความสะดวกสบาย ก็ต้องขออภัย ทั้งนี้คงต้องช่วยกัน หากมาตรการนี้ผ่านที่ประชุมครม.จะให้กองบังคับการตำรวจจราจรดำเนินการทันทีเมื่อออกระเบียบเสร็จ นายวราวุธ กล่าวว่า การออกมาตรการในการแก้ไขปัญหาอะไรก็แล้วแต่ คนกลุ่มแรกที่สามารถแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ได้เร็วที่สุดคือเจ้าของยานพาหนะ ทุกคนในกทม.วันนี้เราขอความร่วมมือ แต่หากยังไม่ดีขึ้นก็คงต้องเสียสละความสะดวกสบายอย่างที่ต่างประเทศทำ และหากลดปัญหาจากรถบรรทุกแล้ว จากรถกระบะแล้ว ยังไม่เกิดผลสำเร็จ คงต้องมารถยนต์ส่วนบุคคล ดังนั้น การใช้รถและถนนร่วมกันเป็นสิ่งที่คนในกทม.ต้องช่วยกันแล้ว อย่างไรก็ตามเชื่อว่าคนส่วนใหญ่จะเข้าใจมาตรการที่เข้มข้นขึ้นของรัฐบาล เพราะซ้ายก็จะโดนผลกระทบอย่างหนึ่ง ขวาก็จะโดนผลกระทบอย่างหนึ่ง แต่ในภาพรวมเราต้องรักษาสิ่งแวดล้อม นายวราวุธ กล่าวว่า ส่วนปัญหาการเผาในพื้นที่ต่างๆของเกษตรกร เราไม่ได้ห้ามเผา เพียงแค่ขอลดการเผาในช่วงเดือนม.ค.และเดือนก.พ.ที่สภาพอากาศปิด ซึ่งสภาพอากาศประเทศไทยรองรับการเผาได้ แต่ให้สลับการเผาแต่ละพื้นที่แต่ละจังหวัดก็สามารถรองรับได้ แต่หากพร้อมใจกันเผา อากาศก็ไม่สามารถรองรับได้ ส่วนแนวคิดการติดเครื่องฟอกอากาศตามจุดต่างๆในกทม.ที่มีการจราจรหนาแน่น เป็นการแก้ปัญหาแบบหนึ่ง แต่ปัญหาต้นเหตุคือยานพาหนะที่ผลิตPM 2.5 ดังนั้นหากกำจัดเท่าไหร่ แต่ยังมีการผลิตฝุ่นในยานพาหนะอยู่ ก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร เพียงแต่จะลดปริมาณได้ช่วงขณะเดียวเท่านั้น เมื่อถามว่า ส่วนโอกาสที่จะออกมาตราการให้รถยนต์ส่วนบุคคลวิ่งวันคู่ วันคี่จะมีหรือไม่ นายวราวุธกล่าวว่า จะเกิดกระแสว่า บางบ้านที่มีสตางค์จะซื้อรถทะเบียนคู่ ทะเบียนคี่ จริงๆแล้วต้องอยู่ที่จิตสำนึกของคนไทย วันนี้ถ้าเลือกจะเกรียนบนโลกออนไลน์ หรือเลือกที่จะทำอะไรเพื่อชีวิตของเราและคนกทม.ขอให้เลิกเกรียน แล้วหันมาทำอะไรที่เกิดประโยชน์กับสังคมจะดีกว่า