ผู้ว่าฯขอนแก่น นำกำลังนับร้อยบุกเรือนจำตรวจทุกซอกทุกมุมหาสิ่งผิดกฎหมาย ตามปฎิบัติการกวาดบ้านให้สะอาดและประกาศสงครามกับยาเสพติด พร้อมกำหนดพื้นที่เรดโซน ปราบปรามต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง เมื่อเวลา 05.30 น. วันที่ 21 ม.ค.2563 นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย นายพันธ์เทพ เสาโกศล ปลัดจังวัดขอนแก่นและ พ.ต.อ.โผนชัย ครองยุทธ์ รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น สนธิกำลังร่วมตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครองและ ปปส. ทำการตรวจค้นเรือนจำกลางขอนแก่น ตามแผนปฎิบัติการจู่โจมตรวจค้นเรือนจำกลางขอนแก่น ประจำเดือน ม.ค.2563 โดยทันทีที่กำลังเจ้าหน้าที่กว่า 200 นายเข้าไปภายในเขตพื้นที่เรือนจำได้ส่งสัญญาณให้นักโทษ ทั้งชายและหญิงที่ถูกคุมขังเกือบ 5,000 คน เข้ารับการตรวจค้นร่างกาย ก่อนที่จะควบคุมมารวมกันที่ลานเอนกประสงค์ เพื่อให้กำลังเจ้าหน้าที่ที่แบ่งออกเป็น 6 ชุด เข้าทำการตรวจค้นเรือนนอน,เรือนพยาบาล,พื้นที่ฝึกฝีมือ,โรงอาหาร และพื้นที่ทุกจุดภายในเรือนจำกลางขอนแก่น ตามแผนการปฎิบัติการที่กำหนด รวมทั้งการสุ่มตรวจปัสสาวะของผู้ต้องขัง เพื่อตรวจหาสารเสพติด ซึ่งจากการตรวจสอบของกำลังเจ้าหน้าที่กว่า2 ชม.ไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า มาตรการจู่โจมปราบปรามและตรวจค้นในพื้นที่เป้าจะสลับสับเปลี่ยนและหมุนเวียนพื้นที่ไปอย่างต่อเนื่อง ด้วยการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย โดยเฉพาะเรือนจำและทัณฑสถาน ที่อยู่ในเขต จ.ขอนแกน รวม 5 แห่ง และบริษัทขนส่งเอกชนและของรัฐ ที่มีมากกว่า 100 แห่ง ที่ทั้งหมดจะต้องถูกรับการตรวจสอบอย่างน้อยที่สุดเดือนละ 2 ครั้ง ที่จะทำการสลับสับเปลี่ยนกันไป ขณะที่พื้นที่เป้าหมายในชุมชนและหมู่บ้านนั้น ได้กำหนดแผนการจู่โจมตรวจค้นครอบคลุมทุกพื้นที่อย่างต่อเนื่องทุกเดือน ทั้งนี้จากผลการปฎิบัติงานในปีที่ผ่านมา ขอนแก่น มีการจับกุมคดียาเสพติดมากกว่า 7,000 คดี ซึ่งเป็นสถิติการจับกุมที่มากที่สุดของ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ขณะที่ในปีนี้ได้มีการปรับเปลี่ยนแผนงานด้วยการกำหนดเขตพื้นที่ตามการวิเคราะห์เหตุการณ์ทั้งในเรื่องของสัดส่วนประชากร การจับกุมแบบซ้ำๆ พฤติกรรมของกลุ่มผู้ค้า รวมไปถึงตัวยาในประเภทต่างๆ ที่ทั้งหมดจะถูกนำมาวิเคราะห์แบบลงลึกรายชุมชนหมู่บ้านที่ขณะนี้ข้อมูลทั้งหมดนั้นเจ้าหน้าที่มีอยู่ในมือแล้ว “เรามีการแบ่งพื้นที่ออกเป็นส่วนๆ เน้นหนักในเรื่องของยาเสพติด ทุกประเภท ซึ่งเมื่อกางแผนที่ออกมาก็จะมีข้อมูลว่าพื้นที่ชุมชนใด ตำบลใด อำเภอใด มีลักษณะของยาเสพติดแบบใด และรุนแรงที่อยู่ในระดับเรดโซนหรือไม่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่นั้นได้เข้าไปตรวจซ้ำและละเอียดให้มากยิ่งขึ้น” ผวจ.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า กำลังเจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติการทุกส่วนนั้นจะต้องอดทนและมีปฎิภาณไหวพริบในการตรวจสอบในกลุ่มขบวนการผู้คายาเสพติดอย่างมาก เพราะด้วยพฤติกรรมของผู้ค้าที่เปลี่ยนไปและหลายคนเริ่มมีอาวุธมาเกี่ยวข้อง การทำงานของเจ้าหน้าที่ต้องเป็นทีม รัดกุม ละเอียดและรอบคอบที่สุด ทุกเป้าหมายที่ทำการตรวจค้นและจับกุมนั้นต้องมีข้อมูลที่ชัดเจน เพื่อป้องกันการต่อสู้หรือการกระทำการใดที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน อย่างไรก็ตามสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการทำให้ชาวขอนแก่นและประชาชนที่เข้ามาในพื้นที่ ขอนแก่นนั้นพึ่งพอใจในมาตรการการดูแลและรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน จนเกิดความอุ่นใจและมั่นใจเมื่อเข้ามาในพื้นที่จังหวัดของเราในภาพรวม