สาธารณสุขจังหวัดตรัง ดำเนินการเชิงรุกลงพื้นที่ติดตามเด็กที่ได้รับวัคซีนไม่ครบตามเกณฑ์ มารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัด ภายในเดือนมีนาคม 2563 นายบรรเจิด สุขพิพัฒปานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ในระยะที่ผ่านมาประเทศไทยยังประสบปัญหาการระบาดของโรคหัดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงปี 2559 เป็นต้นมา ซึ่งเกิดการระบาดในหลายพื้นที่ของประเทศ แม้ว่าความครอบคลุมการได้รับวัคซีนป้องกันโรคหัดภาพรวมของประเทศไทยค่อนข้างสูงก็ตาม แต่ยังมีช่องว่างทางภูมิคุ้มกันในประชากรบางส่วนทั้งเด็กที่ไม่เคยได้รับวัคซีนหรือได้รับวัคซีนไม่ครบตามเกณฑ์ นายแพทย์บรรเจิด เปิดเผยต่อไปว่า ทั้งนี้ พบมากในจังหวัดชายแดนภาคใต้และในจังหวัดที่มีประชากรกลุ่มด้อยโอกาสทั้งเด็กชายและเด็กต่างชาติประมาณร้อยละ 5 หากไม่สามารถปิดช่องว่างทางภูมิคุ้มกันในประชากรกลุ่มดังกล่าวหรือไม่สามารถควบคุมการระบาดของโรคหัดได้ จะส่งผลให้ประเทศไทยไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการกำจัดโรคหัดตามพันธสัญญานานาชาติ “ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุขจึงได้กำหนดให้มีการรณรงค์ให้วัคซีนโรคหัดอย่างเข้มแข็งและเร่งด่วนในปี 2562-2563 เพื่อปิดช่องว่างทางภูมิคุ้มกันในประชากรกลุ่มเป้าหมายโดยหวังผลให้เด็กไทยและเด็กต่างชาติอายุ 1-12 ปี ได้รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันต่อโรคหัด ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและผู้ป่วยด้วยโรคหัด การควบคุมและป้องกันการระบาดของโรค รวมถึงลดอุบัติการณ์การเกิดโรคหัดของประเทศไทยลง” นายแพทย์บรรเจิด กล่าว นายแพทย์บรรเจิด กล่าวต่อไปว่า สำหรับจังหวัดตรังมีกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับการดำเนินการฉีดวัคซีนในเด็กอายุ 1-7 ปี จากการสำรวจ ทั้งสิ้น 20,134 ราย เป็นเด็กที่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ 19,341 รายและมีเด็กที่ได้รับวัคซีนไม่ครบตามเกณฑ์ 793 ราย ซึ่งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตรังได้ดำเนินการเชิงรุก ด้วยการลงพื้นที่ติดตามเด็กกลุ่มดังกล่าวที่ได้รับวัคซีนไม่ครบตามเกณฑ์มารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัด ภายในเดือนมีนาคม 2563 ส่วนเด็กอายุ 7-12 ปี จำนวนเป้าหมาย 2,519 ราย ปัจจุบันฉีดวัคซีนได้ทั้งหมด 2,376 รายคิดเป็นร้อยละ 94.32 ของกลุ่มเป้าหมาย