“EVER”เปิดแผนปี 63 ลุยขยายตลาดอสังหาฯแนวราบ หลังแบรนด์ "เอเวอร์ ซิตี้" และ "มายโฮม"ประสบความสำเร็จ ส่วนโครงการคอนโดมิเนียม ย่านสนามบินน้ำ เดินหน้าเก็บเกี่ยวรายได้ต่อเนื่อง ประเมินแนวโน้มธุรกิจอสังหาฯทรงตัว พร้อมส่งโครงการบ้านเดี่ยวแบรนด์ "มายโฮม ซิลเวอร์เลค" สุวินทวงศ์ เฟสใหม่ มูลค่าโครงการ 420 ล้านบาท จับกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บน นายสวิจักร์ โลจายะ ประธานกรรมการ บริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ EVER ผู้พัฒนาคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ "เดอะโพลิแทน" ทำเลย่านสนามบินน้ำ โครงการแนวราบ บ้านเดี่ยว แบรนด์"มายโฮม อเวนิว" และทาวน์โฮม แบรนด์เอเวอร์ ซิตี้ เปิดเผยว่า บริษัทได้วางกลยุทธ์ในปี 2563 ด้วยการพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง โดยจะเน้นพัฒนาโครงการแนวราบเป็นหลัก จากแบรนด์แนวราบที่มีอยู่ทั้งทาวน์โฮม แบรนด์"เอเวอร์ ซิตี้" โครงการบ้านเดี่ยว แบรนด์"มายโฮม อเวนิว " และ"มายโฮม ซิลเวอร์เลค" ที่เน้นกลุ่มเป้าหมายระดับกลาง-บน ขณะที่โครงการแนวสูงจะเดินคู่ขนานด้วยการเร่งการโอน เพื่อเพิ่มยอดขายมากขึ้น ทั้งนี้การที่เน้นขยายโครงการแนวราบในปี 2563 เนื่องจากในปีที่ผ่านมาโครงการแนวราบ โดยเฉพาะทาวน์โฮม แบรนด์"เอเวอร์ ซิตี้"จำนวน 3 โครงการมูลค่า 2,000 ล้านบาทได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และมียอดขายทยอยเข้ามาต่อเนื่อง ขณะที่โครงการบ้านเดี่ยวก็มียอดขายเข้ามาสนับสนุนเช่นกัน ดังนั้นบริษัทจึงเตรียมแผนที่จะเปิดโครงการบ้านเดี่ยวแบรนด์ "มายโฮม ซิลเวอร์เลค" สุวินทวงศ์ เฟสใหม่ มูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท จำนวน 67 ยูนิต ในราคา 5 ล้านบาทต่อหลัง คาดว่าจะเปิดขายในช่วงในครึ่งแรก 2563 ส่วนโครงการแนวสูง ย่านสนามบินน้ำ 3 โครงการ มูลค่ารวม 15,000 ล้านบาท ยังคงมียอดขายต่อเนื่อง โดยโครงการ "เดอะโพลิแทน อควา" มูลค่าโครงการ 7,000 ล้านบาท จำนวน 2,700 ยูนิต คาดว่าจะสามารถส่งมอบโครงการ และทยอยโอนได้ช่วงครึ่งปีหลังปี 2563 ขณะที่ "เดอะโพลิแทน บรีฟ และเดอะโพลิแทน รีฟ"มีการทยอยโอนในส่วนที่เหลือต่อเนื่อง “ในปี 2563 ยอมรับว่าภาคอสังหาค่อนข้างเหนื่อย ภาพรวมตลาดอสังหาฯน่าจะทรงตัว เพราะภาวะเศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้นตัวและความเข้มงวดของการอนุมัติสินเชื่อจากสถาบันการเงิน รวมทั้งจำนวนคอนโดฯในสต็อกยังมีอยู่ค่อนข้างมาก ดังนั้นต้องมีความรอบคอบในการพัฒนาโครงการใหม่มากขึ้น การเปิดโครงการใหม่ก็เช่นกันต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ส่วนในปี 2562 ถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ สามารถสร้างยอดขายรวมได้ตามเป้าหมาย ซึ่งน่าจะเป็นปีที่ดีของบริษัทและสร้างสถิติสูงสุดใหม่” ประธานกรรมการ EVER กล่าวอีกว่า เป้าหมายระยะยาวในการดำเนินธุรกิจ บริษัทฯอยากให้มีสัดส่วนรายได้ระหว่างแนวราบและแนวสูงอยู่ที่ 50:50 ภายในอีก 2-3 ปีข้างหน้าจากปัจจุบันที่พอร์ตรายได้ส่วนใหญ่จะมาจากโครงการแนวสูง คาดว่าเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงของสัดส่วนในครึ่งหลังปี 2564 เป็นต้นไป