ตามที่ พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความเป็นห่วงพี่น้องเกษตรกรทุ่งบางระกำ อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก และพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ มีความเสี่ยงน้ำท่วมน้ำหลาก จึงได้มีการบูรณาการตามแนวประชารัฐ ระหว่างกรมชลประทาน ฝ่ายทหาร และฝ่ายปกครอง ในการแก้ปัญหาภายใต้ "โครงการบางระกำโมเดล 2560"
พร้อมกันนี้ ได้มีการเปิดศูนย์ประสานงาน "โครงการบางระกำโมเดล 60" ที่ประตูระบายน้ำบ้านใหม่โพธิ์ทอง และประตูระบายน้ำบางแก้ว เพื่อคอยติดตามแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการน้ำในเขตพื้นที่ อำเภอบางระกำ อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก และ อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร และฝ่ายปกครอง คอยรับเรื่องและแก้ไขปัญหาในพื้นที่ เพื่อให้มั่นใจว่า มีน้ำสนับสนุนการเพาะปลูกตามแผนที่วางไว้ รวมทั้ง ได้นำเทคโนโลยีมาใช้ด้วย โดยติดตั้งกล้อง IP Camera เพื่อเฝ้าตรวจระบบการส่งน้ำเพาะปลูกจากแม่น้ำน่านเข้าสู่พื้นที่ "โครงการบางระกำโมเดล 60" ซึ่งจะส่งภาพแบบ Real Time ไปยัง Warroom ของฝ่ายทหาร อำเภอบางระกำ อำเภอพรหมพิราม อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก และอำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย สำนักงานชลประทานที่ 3 และ Warroom ของจังหวัดพิษณุโลก เพื่อให้การบริหารจัดการและจัดส่งน้ำเข้าในพื้นที่เป็นไปตามแผน
สำหรับแนวทางการบริหารจัดการน้ำแบบ ตาม “โครงการบางระกำโมเดล 60” เริ่มขับเคลื่อนตั้งแต่ 15 ตุลาคม 2559 ดำเนินการเพื่อบริหารจัดการพื้นที่น้ำท่วมและภัยแล้งซ้ำซาก ร่วมกับวิถีธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงไป มากกว่าที่จะพยายามควบคุมธรรมชาติ เลือกขอบเขตพื้นที่ลุ่มต่ำลุ่มน้ำยมที่ประสบปัญหาน้ำท่วมทุกปี ได้แก่ อำเภอบางระกำ อำเภอพรหมพิราม อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก และอำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย ที่มีพื้นที่สามารถหน่วงน้ำในช่วงฤดูฝนได้ 400 ล้านลูกบาศก์เมตร น้ำจะท่วมในพื้นที่ประมาณ 3 เดือน ทำให้กำจัดวัชพืช หนูนา ข้าวดีดข้าวเด้ง และช่วยเพิ่มปุ๋ยธรรมชาติ โดยมีเงื่อนไขสำคัญในพื้นที่หน่วงน้ำคือ น้ำเพาะปลูกและน้ำท่วม ต้องมาตามเวลา รับน้ำเพาะปลูก 1 เมษายน 2560 รับน้ำท่วม 1สิงหาคม 2560 น้ำต้องไม่ท่วมถนนหลัก และระบายน้ำที่ท่วมขังออก 1 ธันวาคม 2560 และเงินชดเชยมีความยืดหยุ่น ใน 1 ปี ซึ่งพื้นที่โครงการบางระกำโมเดล 60 จะสามารถทำนาได้ 2 ครั้ง ช่วงเดือนธันวาคม-กรกฎาคม และน้ำจะท่วมช่วงสิงหาคม-พฤศจิกายน ก็จะทำประมง ปล่อยพื้นที่ให้ถูกน้ำท่วม เพื่อกำจัดวัชพืช
ทั้งนี้ นายสัญชัย เกตุวรชัย อธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วยผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย รองแม่ทัพภาคที่ 3 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ติดตามการส่งน้ำเข้าระบบชลประทานพื้นที่ลุ่มต่ำทุ่งบางระกำ ภายใต้การบริหารจัดการน้ำเพื่อสนับสนุนการเริ่มต้นเพาะปลูกข้าวนาปีในช่วงฤดูฝนของพื้นที่หน่วงน้ำ หวังให้เกษตรกรทำนาปีให้เร็วขึ้น ลดความเสี่ยงผลผลิตข้าวได้รับความเสียหายในช่วงฤดูน้ำหลาก ตาม "โครงการบางระกำโมเดล 2560"
นายสัญชัย เกตุวรชัย อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า สำหรับการปรับเปลี่ยนปฏิทินการทำนาปีของเกษตรกรในปีนี้ เป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเป็นไปตามความต้องการของเกษตรกรในพื้นที่ด้วย เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกน้ำท่วมในช่วงฤดูน้ำหลาก ระหว่างเดือนสิงหาคม-ตุลาคม ดังนั้น เพื่อให้เกษตรกรสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ก่อนที่จะถึงฤดูน้ำหลาก กรมชลประทาน จึงได้ปรับปฏิทินใหม่ในการทำนาปี โดยวางแผนจัดสรรน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์ ให้เกษตรกรในพื้นที่ดังกล่าวทำนาก่อนพื้นที่อื่นๆ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 31กรกฎาคม 2560 คาดว่าจะใช้น้ำทั้งหมดประมาณ 228 ล้านลูกบาศก์เมตร
“การปรับเปลี่ยนปฏิทินในการทำนาปีของเกษตรกรในพื้นที่ทุ่งบางระกำ นอกจากจะลดความเสี่ยงที่ผลผลิตข้าวจะได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม ยังจะทำให้เกษตรกรมีรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และยังช่วยให้ภาครัฐสามารถประหยัดงบประมาณจากการจ่ายเงินชดเชยค่าความเสียหายจากน้ำท่วมได้อีกด้วย ที่สำคัญหลังจากที่เกษตรกรเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วเสร็จ ยังสามารถใช้พื้นที่ลุ่มต่ำดังกล่าวเป็นแก้มลิงธรรมชาติ รองรับน้ำในฤดูน้ำหลาก เพื่อลดผลกระทบจากอุทกภัยที่จะเกิดขึ้นในเขตชุมชนและสถานที่ราชการของจังหวัดสุโขทัย ตลอดจนเป็นการหน่วงน้ำรอการระบายไม่ให้เกิดผลกระทบกับลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่างอีกด้วย โดยจะควบคุมระดับน้ำท่วมไม่ให้กระทบต่อที่อยู่อาศัยและการสัญจรของราษฎร ซึ่งจะสามารถเก็บกักน้ำได้สูงสุดประมาณ 400 ล้านลูกบาศก์เมตร ในระยะเวลาประมาณ 3-4 เดือน”
นอกจากนี้ ยังจะช่วยส่งเสริมให้เกษตรกรมีรายได้เสริมจากการทำอาชีพประมง ซึ่งเป็นวิธีชีวิตของเกษตรกรในพื้นที่ลุ่มต่ำบางระกำอยู่แล้ว อีกทั้งปริมาณน้ำที่เก็บกักไว้ในพื้นที่ลุ่มต่ำ ยังสามารถนำมาบริหารจัดการเป็นน้ำต้นทุนในการทำนาปรัง และการอุปโภคบริโภคในช่วงฤดูแล้งได้อีกด้วย