กรมป่าไม้ เดินหน้าแก้ไขปัญหาที่ดินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ริม พร้อมชี้แจงทำความเข้าใจ หลังผู้ประกอบการและชาวบ้านมีความสับสน ไม่เข้าใจในภารกิจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ สั่งการให้นายนฤพนธ์ ทิพย์มณฑา หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร พร้อมด้วยนายสักรินทร์ ปัญญาใจ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 3 ภาคเหนือ และ ผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้เชียงใหม่ หัวหน้าหน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้สันป่าตอง นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดพยัคฆ์ไพร เจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 เชียงใหม่ และตำรวจกองกำกับการ 4 บก.ปทส. ได้เชิญผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 และหมู่ 11 และผู้อยู่อาศัยทำกินที่ประกอบกิจการในลักษณะบ้านพักตากอากาศ รีสอร์ท ร้านกาแฟขนาดใหญ่ หรือสถานบริการนักท่องเที่ยวอื่นๆ ท้องที่บ้านปางไฮ หมู่ที่ 4 บ้านหนองหอยเก่า หมู่ที่ 7 และบ้านหนองหอยใหม่ หมู่ที่ 11 ตำบลแม่แรมและบ้านโปงแยงนอก หมู่ที่ 2 ตำบลโปงแยง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่รวมกว่า 200 คน เพื่อประชุมชี้แจงทำความเข้าใจ ในแก้ไขปัญหาและจัดระเบียบการอยู่อาศัยทำกินในพื้นที่ปาสงวนแห่งชาติป่าแม่ริม หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร ได้ชี้แจงทำความเข้าใจถึงสภาพปัญหาและแนวทางการแก้ไขปัญหา โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายน 2562 มีการจับกุมจำนวน 1 แปลง(มอนใจ) เดือนธันวาคม 2562 จับกุม จำนวน 3 แปลง และเดือนมกราคม 2563 จับกุม จำนวน 3 แปลงรวมจำนวน 7 แปลง ผู้ที่ถูกดำเนินการจับกุมเป็นคนนอกพื้นที่ซึ่งไม่มีคุณสมบัติในการอยู่อาศัยทำกิน และได้มีการหาแนวทางในการจัดการให้เหมาะสมจึงต้องมีการสำรวจสิ่งปลูกสร้างอีกครั้ง จากผู้ที่เคยสำรวจแล้ว จำนวน 50 ราย และรายใหม่ จำนวน 30 ราย เพื่อวางแนวทางในการทำงาน และจะได้เข้าสู่กระบวนการการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) ต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาผู้ประกอบการและชาวบ้านยังมีความสับสนหรือไม่เข้าใจในภารกิจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในครั้งนี้ ซึ่งภายหลังจากการประชุมชี้แจงแล้ว ทางผู้ประกอบการและกลุ่มชาวบ้านเข้าใจและยินดีให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบครั้งนี้ จากการประชาสัมพันธ์ของเจ้าหน้าที่ ซึ่งให้ผู้ประกอบกิจการสถานบริการนักท่องเที่ยวให้มาลงทะเบียนกับเจ้าหน้าที่ ปรากฏว่าวันนี้มีผู้ประกอบการมาลงทะเบียนจำนวน 76 ราย ขณะที่ชุดปฏิบัติการได้ปูพรมสำรวจรีสอร์ทอย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้ตรวจพบสถานประกอบการเพิ่มอีก 8 ราย โดยตั้งแต่วันที่ 15-17 มกราคม 2563 เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบสถานประกอบการที่ตรวจพบใหม่ 37 ราย จำแนกเป็นโรงแรม 4 หลัง บ้านพัก / อาคารสำนักงาน 46 หลัง ร้านอาหาร / ร้านกาแฟ 11 หลัง ลานกางเต็นท์ลักษณะถาวร 236 หลัง ลานกางเต็นท์ลักษณะชั่วคราว 40 หลัง และอื่นๆ เช่น ห้องน้ำโรงจอดรถ/ที่เก็บของ อีก 46 หลัง นอกจากนี้ ได้เข้าตรวจสอบสถานประกอบการที่ทำการตรวจสอบแล้วเมื่อเดือน กรกฎาคม 2562 แต่ต้องตรวจสอบใหม่ เพื่อให้ได้ข้อมูลสิ่งปลูกสร้างถูกต้องครบถ้วน 9 ราย ในส่วนของผู้ประกอบการรายที่เหลือ และที่ยังไม่ได้ทำการตรวจสอบ จะดำเนินการตรวจสอบในวันต่อไป