วันนี้ (18 ม.ค.63) นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวที่ว่าแกนนำระดับสูงของพรรคเพื่อไทย เจรจาของานโครงการในกระทรวงคมนาคม มูลค่า 900 ล้านบาท เพื่อแลกกับการไม่ใส่ชื่อ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ไม่ทราบว่าบุคคลในกระแสข่าวเป็นใครในพรรคเพื่อไทย และไม่เคยได้ยินเรื่องดังกล่าวมาก่อน เพิ่งเห็นจากหน้าหนังสือพิมพ์เท่านั้น "ผมกับนายศักดิ์สยาม ไม่เคยพูดคุยอะไรกันเป็นการส่วนตัว หรือผ่านตัวแทนก็ไม่มี ที่ผ่านมาก็ทักทายกันปกติ เฉพาะเวลามาร่วมประชุมสภาฯ ผมถามถึงสารทุกข์สุกดิบของ นายชัย ชิดชอบ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย บิดาของนายศักดิ์สยาม ซึ่งทราบว่ามีอาการป่วยอยู่ โดยบอกว่าจะหาโอกาสไปเยี่ยมนายชัยบ้าง แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้ไป "นายสมพงษ์ กล่าว เมื่อถามถึงข้อสังเกตที่ว่าญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจฯของพรรคร่วมฝ่ายค้านจะไม่มีชื่อนายศักดิ์สยาม ทั้งที่หลายโครงการของกระทรวงคมนาคมมักมีความไม่ชอบมาพากล นายสมพงษ์ กล่าวว่า เรื่องญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจฯ ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุป ทั้งในส่วนพรรคเพื่อไทย ที่มีการทำงาน 2 ส่วน คือคณะกรรมการกิจการพิเศษ ที่มี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นประธาน และในส่วนของที่ประชุมพรรค ก่อนจะพิจารณาร่วมกันเพื่อออกมาเป็นข้อยุติของพรรคต่อไป หากใครมีข้อมูลที่จะอภิปรายรัฐมนตรีคนไหน แล้วมีน้ำหนักเหตุผลเพียงพอก็สามารถเสนอเข้ามาได้ เมื่อพรรคเพื่อไทยได้ข้อยุติ ก็จะนำไปพูดคุยกับพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นๆ ซึ่งนัดหมายกันในช่วงสัปดาห์หน้า ก่อนจะออกเป็นมติของพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อยื่นญัตติฯต่อสภาฯต่อไป “ข้อยุติเรื่องญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจฯ จะอภิปรายรัฐมนตรีคนไหนบ้าง ไม่ใช่เรื่องที่พรรคเพื่อไทยจะไปชี้นำหรือจำกัด ไม่เอาคนนั้นคนนี้ได้ เราต้องรอฟังความเห็นของฝ่ายค้านทุกพรรค คนไหนพรรคเพื่อไทยไม่เสนอ พรรคร่วมฝ่ายค้านก็เสนอเข้ามาได้ ถ้ามีข้อมูลหลักฐานมีน้ำหนักเพียงพอ ก็นำมาบรรจุเข้าญัตติโดยความเห็นร่วมกันได้ ยืนยันว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจฯครั้งนี้ไม่มีการซูเอี๋ยหรือล้มมวย แล้วจะยังมีทีเด็ดที่จะมีผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในรัฐบาลไม่มากก็น้อย” นายสมพงษ์ ระบุ นอกจากนี้นายสมพงษ์ ยังให้สัมภาษณ์กรณีมีกระแสข่าวพรรคพลังประชารัฐประสานพรรคเพื่อไทยเพื่อร่วมเป็นรัฐบาลว่า ไม่มีการพูดคุยถึงเรื่องดังกล่าวอย่างเป็นทางการ และส่วนตัวก็ไม่มีความคิดในเรื่องนี้ จะมีก็แต่เพียงเพื่อนส.ส.ที่คบกันมานาน 20-30 ปี หยอกล้อกระเซ้าเย้าแหย่กันเท่านั้น เช่นนายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล เวลาเจอหน้าก็แค่แหย่กันว่ามาอยู่ด้วยกันเท่านั้น