เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 18 ม.ค.63 ที่สนามกีฬากลางสวนสาธารณะพญาแถน ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร นายแพทย์จักราวุธ จุฑาสงฆ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยโสธร เป็นประธานเปิดงานมหกรรมรณรงค์สร้างกระแส ลด ละ เลิก การบริโภคปลาดิบ เพื่อกำจัดปัญหาโรคพยาธิใบไม้ตับ และมะเร็งท่อน้ำดี จังหวัดยโสธร พร้อมทั้งกิจกรรมสร้างสุขภาพออกกำลังกายโดยคีตตะมวยไทย โดยทั้ง 9 อำเภอจัดขบวนพาเหรด คาราวานแฟนซี อย่างยิ่งใหญ่ พร้อมแสดงนิทรรศการเมนูชูสุขภาพ ชิมส้มตำปลาร้าสุก
นายแพทย์จักราวุธ จุฑาสงฆ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยโสธร เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายให้ทุกจังหวัด ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จัดทำโครงการ กำจัดพยาธิใบไม้ตับ และมะเร็งท่อน้ำดี เพื่อรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร์ มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พร้อมทั้งถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จังหวัดยโสธร ได้ดำเนินการตามนโยบายดังกล่าว มาตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน โดยมีมาตรการหลักคือ ตรวจคัดกรองพยาธิใบไม้ตับ และมะเร็งท่อน้ำดี การให้ความรู้เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินปลาดิบแก่ประชาชน รวมทั้งส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สร้างบ่อบำบัดสิ่งปฏิกูล แต่ก็ยังพบว่าประชาชน ยังมีพฤติกรรมการกินปลาดิบอย่างต่อเนื่อง การจัดกิจกรรมวันนี้จึงมุ่งสร้างกระแส ให้ประชาชนเกิดความตระหนัก และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ในการไม่กินปลาดิบ
นายแพทย์จักราวุธ ยังกล่าวอีกว่า ทุกอำเภอจัดขบวนแฟนซีได้อย่างยิ่งใหญ่มาก ประชาชนที่ได้เห็นขบวนคงจะประทับใจ โดยเฉพาะเทพีขี้กะตึก หรือนางงามพยาธิ ที่ทุกอำเภอตั้งใจให้เป็นสัญญลักษณ์ของงาน ใช้ความคิดสร้างสรรค์มานำเสนอ และสอดแทรกเรื่องราวของการลด ละเลิก การกินปลาดิบในริ้วขบวนให้ประชาชนได้ความรู้และเกิดความตะหนักด้วย
นายแพทย์จักราวุธ ยังกล่าวอีกว่าในส่วนของ กิจกรรมสร้างสุขภาพออกกำลังกายโดยคีตะมวยไทย เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติฯ จึงน้อมนำพระราชดำริด้านการส่งเสริมกิจกรรมการออกกำลังกาย ที่ช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ และสามารถร่วมปฏิบัติกันได้ทุกเพศทุกวัยในครอบครัวเป็นเป้าหมายหลัก ในการสร้างกระแสให้ประชาชนออกกำลังกาย เมนูเกิดเป็นกิจกรรม 10 ล้านครอบครัวไทยออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ และใช้คีตะมวยไทย 10 ท่า เป็นการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ซึ่งถือเป็นการแสดงออกถึงความเป็นไทยและความรักชาติ ร่วมสืบสานและอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย วันนี้จึงถือโอกาสให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกอำเภอ ร่วมกันเป็นแบบอย่างที่ดี ในการออกกำลังกาย และเพื่อเป็นการร่วมกันแสดงถึงพลังความสามัคคี ความจงรักภักดีและร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ อันหาที่สุดมิได้ อีกด้วย
นายแพทย์จักราวุธ จุฑาสงฆ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยโสธร เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายให้ทุกจังหวัด ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จัดทำโครงการ กำจัดพยาธิใบไม้ตับ และมะเร็งท่อน้ำดี เพื่อรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร์ มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พร้อมทั้งถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จังหวัดยโสธร ได้ดำเนินการตามนโยบายดังกล่าว มาตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน โดยมีมาตรการหลักคือ ตรวจคัดกรองพยาธิใบไม้ตับ และมะเร็งท่อน้ำดี การให้ความรู้เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินปลาดิบแก่ประชาชน รวมทั้งส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สร้างบ่อบำบัดสิ่งปฏิกูล แต่ก็ยังพบว่าประชาชน ยังมีพฤติกรรมการกินปลาดิบอย่างต่อเนื่อง การจัดกิจกรรมวันนี้จึงมุ่งสร้างกระแส ให้ประชาชนเกิดความตระหนัก และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ในการไม่กินปลาดิบ
นายแพทย์จักราวุธ ยังกล่าวอีกว่า ทุกอำเภอจัดขบวนแฟนซีได้อย่างยิ่งใหญ่มาก ประชาชนที่ได้เห็นขบวนคงจะประทับใจ โดยเฉพาะเทพีขี้กะตึก หรือนางงามพยาธิ ที่ทุกอำเภอตั้งใจให้เป็นสัญญลักษณ์ของงาน ใช้ความคิดสร้างสรรค์มานำเสนอ และสอดแทรกเรื่องราวของการลด ละเลิก การกินปลาดิบในริ้วขบวนให้ประชาชนได้ความรู้และเกิดความตะหนักด้วย
นายแพทย์จักราวุธ ยังกล่าวอีกว่าในส่วนของ กิจกรรมสร้างสุขภาพออกกำลังกายโดยคีตะมวยไทย เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติฯ จึงน้อมนำพระราชดำริด้านการส่งเสริมกิจกรรมการออกกำลังกาย ที่ช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ และสามารถร่วมปฏิบัติกันได้ทุกเพศทุกวัยในครอบครัวเป็นเป้าหมายหลัก ในการสร้างกระแสให้ประชาชนออกกำลังกาย เมนูเกิดเป็นกิจกรรม 10 ล้านครอบครัวไทยออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ และใช้คีตะมวยไทย 10 ท่า เป็นการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ซึ่งถือเป็นการแสดงออกถึงความเป็นไทยและความรักชาติ ร่วมสืบสานและอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย วันนี้จึงถือโอกาสให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกอำเภอ ร่วมกันเป็นแบบอย่างที่ดี ในการออกกำลังกาย และเพื่อเป็นการร่วมกันแสดงถึงพลังความสามัคคี ความจงรักภักดีและร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ อันหาที่สุดมิได้ อีกด้วย