บุรีรัมย์สุดสะเทือนใจ ญาติรับร่าง 4 พ่อแม่ลูกเหยื่อกระบะมาสด้าข้ามเลนพุ่งประสานงาตกถนนดับยกคัน กลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้าน ท่ามกลางเสียงร้องไห้ระงมเพราะทำใจไม่ได้ เพื่อนโพสต์อาลัยจำนวนมาก ยายเผยวันเกิดเหตุลูกหลานชวนมาด้วยแต่บอกจะไปออกกำลังกายไม่งั้นคงไม่รอด ไม่คิดจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เจอหน้าลูกและหลาน ฝากผู้ขับขี่ไม่ควรประมาทสูญเสียไปแล้วเอาคืนไม่ได้ วันนี้ (17 ม.ค.63) จากกรณีที่รถยนต์กระบะ ยี่ห้อมาสด้า สีขาว หมายเลขทะเบียน บร-3482 บุรีรัมย์ ซึ่งมีนายธีรพงษ์ สุจริตธรรม อายุ 45 ปี เป็นคนขับ ออกจากตัวเมืองบุรีรัมย์ มุ่งหน้าไปทาง อ.บ้านด่าน แต่พอถึงบริเวณหน้าโรงสีสหสินข้าวไทย ต.บ้านยาง อ.เมืองบุรีรัมย์ ได้พยายามเร่งเครื่องแซงรถหกล้อแต่ไม่พ้นถูกหกล้อเบียดขึ้นเกาะกลางถนน จนเสียหลักข้ามเลนพุ่งไปชนประสานงากับรถกระบะยี่ห้อ โตโยต้า วีโก้ สีขาว หมายเลขทะเบียน ผจ-1175 ขอนแก่น ซึ่งมีนายวีระวุธ อินทจักร์ อายุ 32 ปี เป็นคนขับ และมีน.ส.ภารดา โพธิมาศ อายุ 39 ปี ภรรยา , ด.ช.ภราวุธ โพธิมาศ อายุ 9 ขวบลูกชายคนโต และ ด.ช.วีวราวุฒิ โพธิมาศ อายุ 4 ขวบ ลูกชายคนเล็ก นั่งมาด้วย เพื่อมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองบุรีรัมย์ อย่างเต็มแรง จนรถวีโก้กระเด็นตกถนนพังเสียหายยับเยินทั้งคันหลังคาเปิด เป็นเหตุให้ 4 พ่อแม่ลูกที่นั่งมาในรถวีโก้เสียชีวิตทั้งคัน ส่วนคนขับรถกระบะมาสด้าที่ข้ามเลนมาชน ก็กระเด็นตกจากรถบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุดังกล่าวรวม 5 ศพ เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 16 ม.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นอุบัติเหตุที่สร้างความสะเทือนใจรับต้นปี ขณะที่ ช่วงบ่ายวันนี้(17 ม.ค.) ที่ผ่านมา ทางครอบครัวและญาติ ได้เดินทางไปติดต่อรับศพของ 4พ่อแม่ลูก ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุดังกล่าว ที่อาคารพักศพภายในโรงพยาบาลบุรีรัมย์ ท่ามกลางความโศกเศร้าและเสียงร้องไห้ระงม เพราะทำใจไม่ได้กับการสูญเสียคนในครอบครัวไปพร้อมกันถึง 4 ศพ ทั้งนี้ทางมูลนิธิกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมสถานบุรีรัมย์ ได้นำรถมาให้บริการรับศพไปส่งยังบ้านที่วัดอนามัยแคนดง อ.แคนดงเพื่อประกอบพิธีทางศาสนา โดยญาติมีกำหนดจะประกอบพิธีสวดอภิธรรม 3 คืน และประกอบพิธีฌาปนกิจในวันที่จันทร์ 20 ม.ค. ขณะที่บรรดาเพื่อนๆ และคนรู้จักที่ทราบข่าวการสูญเสียของครอบครัวนี้ ก็ได้โพสต์อาลัย และแสดงความเสียใจกับครอบครัว และขอให้ดวงวิญญาณของทั้งพ่อแม่ลูกหลับให้สบายไปสู่สุขคติ ในภพภูมิที่ดี จากการสอบถามนางวาสนา แมบจันทึก อายุ 70 ปี แม่ของ น.ส.ภารดา หนึ่งในผู้เสียชีวิต บอกว่า ลูกสาวและลูกเขยถือเป็นเสาหลักของบ้าน ก็จะดูแลทั้งย่า ยาย และลูกอีก 2 คน ปัจจุบันเปิดร้านขายอะไหล่และซ่อมรถจักรยานยนต์ ปกติไปไหนมาไหนก็จะไปด้วยกันทั้งย่า ยาย ลูกสาว ลูกเขย และหลานอีก 2คน ซึ่งวันเกิดเหตุลูกสาวก็ชวนไปด้วยบอกว่าจะเอารถไปส่งลูกค้าในตัวเมือง แต่ตนเองบอกไม่ไปเพราะอยากจะไปเต้นแอโรบิคออกกำลังกาย ซึ่งหากมาด้วยคิดว่าก็คงจะไม่รอดเหมือนกัน รู้สึกเสียใจจนพูดไม่ออกที่ต้องมาสูญเสียทั้งลูกสาว ลูกเขย และหลานอีก 2 คนไปพร้อมๆ กัน ไม่มีใครทำใจได้ แต่ก็คิดว่าเขาคงจะทำบุญกันมาแค่นี้ก็ขอให้หลับให้สบาย ยายวาสนา ยังบอกอีกว่า ไม่ได้มีลางบอกเหตุอะไรเพียงแต่ก่อนที่จะพากันออกมา ก็เห็นหลานคนโตดูมีความสุขเล่นหัวเราะสนุกสนานทั้งวัน ส่วนหลานคนเล็กบอกว่าจะกลับมานอนกับยาย แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เจอหน้าหลานๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวก็อยากฝากเป็นอุทาหรณ์กับผู้ขับขี่ว่าไม่ควรจะประมาทเพราะหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นแล้วไม่ใช่แค่ตัวเองที่จะเดือดร้อน ก็จะทำให้ผู้ร่วมทางเขาสูญเสียไปด้วย เพราะหากเกิดไปแล้วก็เอากลับคืนมาไม่ได้ ซึ่งตนเองก็ไม่รู้จะไปเรียกร้องเอาอะไรกับใครเพราะคู่กรณีก็เสียชีวิต ก็คงแล้วแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือทางครอบครัวคู่กรณีว่าจะรับผิดชอบยังไง ขณะที่ น.ส.วรางคณา พรมทอง อายุ 40 ปี พี่สาว น.ส.ภารดา บอกว่า ปกติครอบครัวนี้จะไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดทั้ง 4 คนพ่อแม่ลูก เป็นครอบครัวที่น่ารัก หลังจากทราบข่าวก็ตกใจและเสียใจเพราะพึ่งเจอหลานๆ เมื่อวันเด็กที่ผ่านมา ก็ยังเห็นเขาเล่นสนุกสนาน และไม่คิดว่าอุบัติเหตุครั้งนี้จะพรากไปพร้อมกันถึง 4 ชีวิตโดยที่ไม่ทันได้สั่งลาหรือดูใจกันเลยด้วยซ้ำ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็คิดว่าเกิดจากความประมาทของคู่กรณี เพราะน้องเขยขับมาทางตรงปกติแต่อีกคันข้ามเลนมาพุ่งชน จนเกิดการสูญเสีย แต่ส่วนเรื่องคดีก็คงให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ