แม้จะมีกระแสมาตลอดก่อนหน้านี้ว่า กรณ์ จาติกวณิช ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์จะลาออก แต่การยื่นหนังสือลาออกอย่างเป็นทางการเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2563 โดยเขาได้แจ้งให้กับส.ส.ที่ร่วมอยู่ในงานเลี้ยงปีใหม่ให้กับอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ร้านทีเฮาส์ พระราม 6 พร้อมกับการหลั่งน่ำตาขณะร้องเพลง “รักเธอเสมอ” ซึ่งปราศจากเงาของหัวหน้าพรรคอย่าง จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หลังการลาออกของ “กรณ์” นอกจากจะส่งผลให้ จักรพันธ์ ปิยพรไพบูลย์ เลื่อนขึ้นมาเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อแทน “กรณ์” แล้ว ยังมีข่าวว่า อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ เตรียมยื่นหนังสือ ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ตามไปด้วยอีกคน กระนั้น มีรายงานข่าวออกมาว่า เบื้องหลังการตัดสินใจจบการทำงานร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ที่ยาวนานถึง 15 ปี มาจากความผิดหวังผู้บริหารพรรคชุดปัจจุบันที่ไม่เปิดโอกาสให้ทำงานเกี่ยวกับด้านเศรษฐกิจของและงานของพรรค ขณะที่มีกระแสข่าวอีกด้านหนึ่งระบุว่า “กรณ์”จะไปตั้งพรรคการเมืองใหม่และเข้าร่วมรัฐบาล กระทั่งข่าวการวางตัวมาลงสมัครผู้ว่าฯกทม. ในนามพรรคพลังประชารัฐ ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือ “บิ๊กป้อม” รองนายกรัฐมนตรี ปฏิเสธยังไม่เคยพูดคุยทาบทาม “กรณ์” และไม่รู้ว่า “กรณ์” จะมาลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.ในนามของพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ ส่วน “จุรินทร์” ก็ยืนยันว่า ไม่ได้มีปัญหาความขัดแย้งกับ “กรณ์” แต่อย่างใด “ผมได้ร่วมพิจารณาอนุมัติงบประมาณแผ่นดินจนเสร็จเรียบร้อย ซึ่งหมายความว่ารัฐบาลสามารถเดินหน้าได้เต็มที่ในการขับเคลื่อนนโยบายของพรรคที่ผมได้ช่วยร่างไว้ในฐานะ (อดีต) ประธานนโยบาย ผมจึงคิดว่าผมได้ทำภารกิจที่พรรคได้มอบหมายไว้จนครบถ้วนหมดแล้ว ผมจึงได้ยื่นใบลาออกตามที่ตั้งใจไว้”กรณ์ระบุในเพจเฟซบุ๊ก หลังข่าวลาออก และยังระบุด้วยว่า “ผมตัดสินใจเดินหน้าสร้างทางเลือกทางการเมืองที่คนไทยแสวงหา เป็นการเมืองที่ต้องกล้าคิด กล้าทำ กล้าแม้แต่จะพลั้งพลาด และเป็นการเมืองที่มั่นใจในศักยภาพของคนไทย เป็นการเมืองที่มีเป้าหมายเปลี่ยนแปลงประเทศในหลากหลายมิติ ด้วยความเชื่อว่าหากเราไม่กล้าเปลี่ยน ไม่กล้าท้าทายตัวเอง คนไทยจะลำบาก เพราะเราจะแข่งขันไม่ได้” อย่างไรก็ตาม การลาออกของ “กรณ์” นั้น ถูกมองว่าอาจเดินตามรอย “พีระพันธุ์โมเดล” ที่พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ไขก๊อกไปก่อนหน้านี้ แล้วได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และเข้าไปนั่งเป็นประธานคณะกรรมาธิการ วิสามัญศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงน่าจับตาว่า เส้นทางของ “กรณ์” จะไปสู่หนทางใด ตั้งพรรคใหม่ ลงเลือกตั้งผู้ว่าฯในนามพรรคพลังประชารัฐ หรือแม้กระทั่งเก้าอี้รัฐมนตรี ด้วย “กรณ์” เคยมีดีกรีเป็นถึงอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์