วันที่ 15 ม.ค.63 ที่รัฐสภา นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกมาเปิดเผยรายชื่อ 18 พรรคการเมือง ที่มีการกู้เงินเหมือนพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ซึ่งหนึ่งในนั้นมีพรรคภูมิใจไทยรวมอยู่ด้วยว่า ปี 2557-2561 เป็นช่วงที่มีการยึดอำนาจ โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคำสั่งห้ามไม่ให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น ทำให้ในช่วงนั้นพรรคการเมืองไม่สามารถรับเงินบริจาคหรือระดมทุนได้ แต่พรรคการเมืองมีค่าใช้จ่ายที่ต้องดำเนินการกิจการภายในของพรรค เช่น ค่าสำนักงาน ค่าพนักงานต่างๆ ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยในแต่ละปีช่วงปี 2557-2561 จึงมีเงินทดรองจ่ายเข้ามา เพื่อจัดการเกี่ยวกับเรื่องค่าใช้จ่ายเหล่านั้น ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวนั้นเป็นการใช้กฎหมายฉบับเดิมที่ไม่ได้ห้ามยืมเงินหรือห้ามมีเงินทดรองจ่าย ซึ่งอนุญาตให้ทำได้ แต่หลังจากที่พ.ร.บ.พรรคการเมือง พ.ศ. 2560 บังคับใช้โดยการปลดล็อคหรืออนุญาตโดยคสช. เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 2561 ที่มีการใช้กฎหมายฉบับใหม่ พรรคภูมิใจไทยก็ไม่ได้มีเงินทดรองจ่ายหรือมีการยืมเงินมาใช้อีกเลย “หลังจากที่กฎหมายไม่อนุญาต พรรคภูมิใจไทยก็ไม่เคยยืมเงิน หรือมีการกระทำใดที่ผิดกฎหมาย หรือทำสิ่งที่กฎหมายห้ามอีกเลย สิ่งที่พยายามบอกว่าพรรคภูมิใจไทยเหมือนกับพรรคการเมืองที่กำลังจะถูกดำเนินคดีอยู่ในขณะนี้นั้น ยืนยันว่าแตกต่างกัน เพราะสิ่งที่พรรคการเมืองที่กำลังถูกดำเนินการอยู่นั้นเป็นการถูกกล่าวหาว่ามีการทำนิติกรรมอำพราง ก็ต้องมีการดำเนินการตามขั้นตอน และเข้าใจว่าเป็นการใช้เพื่อหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งเป็นคนละกรณีกับพรรคภูมิใจไทย” นายศุภชัย กล่าว