สถานการณ์แม่น้ำโขงที่มีความผันผวนอยู่ในขณะนี้นับได้ว่าเป็นที่ช่วงวิกฤต หลังแม่น้ำโขงจากแหล่งน้ำที่เคยอุดมสมบูรณ์ในอดีต แต่ปัจจุบันกลายเป็นแม่น้ำที่มีความผันผวนตลอดเวลา น้ำขึ้นลงผิดปกติ ภาพแอ่งน้ำที่แห้งขอด หลายพื้นที่แล้งหนักถึงขั้นมีหาดทรายโผล่ขึ้นมาแทนที่ โดยสาเหตุอันดับแรกๆ ที่นักวิชาการส่วนใหญ่อ้างถึงคือการเกิดขึ้นของเขื่อนต่างๆ ที่มีอยู่บนเส้นแม่น้ำโขง โดย วานนี้ (12 ม.ค.) เพจ Mekong Voice เสียงจากลำน้ำโขง ได้นำข้อมูลมานำเสนอสถานการณ์แม่น้ำโขงท้ายเขื่อนไซยะบุรีบริเวณพรมแดนไทย-ลาวที่ บ้านห้วยค้อ อ.สังคม จ.หนองคาย วิกฤตหนัก หลังน้ำลด บุ่งหรือแอ่งน้ำมีน้ำน้อยมาก กลางวันน้ำร้อนเพราะแดดแผดเผา น้ำเต็มไปด้วยตะไคร่น้ำ และพบว่าบุ่งที่มีน้ำน้อยเริ่มมีปลาตาย ส่วนที่มีน้ำมากมีปลาติดค้างเพราะหนีลงน้ำไม่ทัน ชาวบ้านกลุ่มรักษ์แม่น้ำโขงได้พยายามช่วยเหลือโดยต้องซื้ออาหารปลาไปให้ ทั้งนี้นอกจากจะส่งผลกระทบต่อปลานานาชนิดที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำโขงแล้ว พลับพลึงแม่น้ำโขงกำลังแห้งตาย ส่วนต้นไคร้แห้งตายเกือบหมดแล้ว เพราะระดับน้ำโขงเกิดการผัวผวนรุนแรง ชาวบ้านในพื้นที่บอกว่าต้นไคร้น้ำพืชประจำถิ่น ชาวบ้านให้สมญานามมัน ว่า “แมวเก้าชีวิต” ก็ยังยืนต้นตาย ซึ่งต้นไคร้ทำหน้าที่เป็นแหล่งอนุบาลพันธุ์ปลานานาชนิด ซึ่งจริงๆแล้วต้นไคร้น้ำ มันไม่ได้ตายง่ายๆ ทนต่อทุกสภาพอากาศแต่กลับยืนต้นตายจำนวนมาก ชี้ให้เห็นว่าระบบนิเวศแม่น้ำโขงกำลังจะสูญสลายไปในไม่ช้าหากน้ำโขงยังคงผันผวนอยู่แบบนี้ โดยชาวบ้านยังให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวอีกสิ่งที่เกิดขึ้นกับแม่น้ำโขงในตอนนี้ไม่ได้กระทบแค่ในระบบนิเวศแม่น้ำโขงเพียงอย่างเดียว ส่งผลโดยตรงกับ ผู้คนที่พึ่งพาแม่น้ำสายประธานแห่งนี้ ที่หล่อเลี้ยงชีวิตคน 6 ประเทศ ได้แก่ จีน พม่า ไทย ลาว กัมพูชา และเวียดนาม ก่อนออกสู่ทะเลจีนใต้ แหล่งอาหารของคนกำลังจะถูกทำลายตามไปด้วย รวมถึงวิถีชีวิตคนริมโขงก็เช่นกัน ชาวบ้านใน อ.สังคม และ อำเภออื่นๆที่อยู่ตามแนวแม่น้ำโขงของ จ.หนองคาย เริ่มหาปลาในแม่น้ำโขงได้ยากขึ้นมาหลายปีแล้ว ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นชาวบ้านบอกว่า “น้ำโขงจะไม่มีวันเหมือนเดิม และลูกหลานในอนาคตเขาจะใช้ชีวิตอยู่กับสายน้ำแห่งชีวิตที่หล่อเลี้ยงพวกเขาได้อย่างไร. ภาพโดย ก้านก่อง จันลอง ข้อมูลบางส่วนจาก เพจ Mekong Voice เสียงจากลำน้ำโขง ภัทรวินทร์ ลีปาน หนองคาย