ตำรวจชุดปส.กาฬสินธุ์รวบยกแก๊งนักบิน-สเก๊าหน้าขนยาบ้าล็อตใหญ่ตะเวนส่งเครือข่ายทั่วภาคอีสาน ยึดของกลาง 228,000 เม็ด กัญชา 5 กิโลกรัม สารภาพรับจ้างขนจากประเทศเพื่อนบ้านเที่ยวละ 30,000 บาท สุดท้ายจนมุมคารีสอร์ท
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 13 มกราคม 2562 ที่หน้ากองบังคับการตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ,พ.ต.อ.ทวีรัตน์ ศรีธวัชพงศ์, พ.ต.อ.ตรีวิทย์ ศรีประภา, พ.ต.อ.ออมสิน ตรารุ่งเรือง,พ.ต.อ.ไพโรจน์ ไทยพุทรา, พ.ต.อ.คะเชนทร์ ยืนยง พ.ต.อ.พันกฤษณ์ วิชญชีวินทร์ รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ณัฐฏ์เอก
จงตระการสมบัติ ผกก.สืบสวน ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ชัยยุทธ ธรรมสุนา ผกก.สภ.สมเด็จ พร้อมด้วยพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปส.ตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ ชุดสืบสวนสภ.สมเด็จและทหาร แถลงผลการจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติด ประกอบด้วย 1.นายวรจิต หรือเบิ้ม สมราญสม อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 94 ม.3 ต.หัวนาคำ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น 2.นายไพรมณี หรือบาส โคตรสขึง อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 ม.5 ต.นาหมอม้า อ.เมือง จว.อำนาจเจริญ และ3.น.ส.อนิสราหรือน็อต เข็มทอง อายุ 27 ปี ที่อยู่ 16 หมู่ 14 ต.น้ำคำใหญ่ อ.เมือง จ.ยโสธร พร้อมของกลางยาบ้า 228,000 เม็ด กัญชา 5 กิโลกรัม รถยนต์กระบะ 3 คัน สร้อยคอทองคำ เงินสด และสมุดบัญชีธนาคารจำนวนมาก
พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า หลังเทศกาลปีใหม่จะมีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านนำยาบ้ามาส่งในเขตพื้นที่ จ.ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ และจังหวัดอื่นๆในภาคอีสาน เพราะช่วงมีใหม่มีด่านตรวจจำนวนมาก ดังนั้นเจ้าหน้าที่ชุดปส.ตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ นำโดยพ.ต.ท.ภฤศ ภาสว่าง รองผกก.(ป.)สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ในฐานะหัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติด จ.กาฬสินธุ์ จึงได้วางแผนจับกุม โดยแบ่งกำลังออกตรวจในเส้นทางที่คาดว่ากลุ่มผู้ค้าจะใช้เป็นเส้นทางผ่าน กระทั่งเวลา 05.30 น.ของวันที่ 10 ม.ค.63 พบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน ขับตามกันมา ซึ่งคันแรกเป็นรถกระบะแค็ปแบบแต่งซิ่ง สีขาวยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว้ ทะเบียน ผจ 4972 อุบลราชธานี ส่วนคันตามเป็นกระบะ 4 ประตู ยี่ห้อโตโยต้า สีน้ำตาล ทะเบียน 7849 กรุงเทพ ขับมุ่งหน้ามาทาง อ.สมเด็จ เจ้าหน้าที่จึงได้ขับติดตาม พบว่ารถยนต์ต้องสงสัยทั้งสอง ขับเลี้ยวเข้าไปในรีสอร์ทแห่งหนึ่งใน อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์
โดยรถยนต์ 4 ประตู ได้เข้าจอดที่ห้องหมายเลข 5 ส่วนกระบะแค็ป จอดอยู่หน้าห้องหมายเลข 6 เจ้าหน้าที่จึงเดินไปสำรวจรอบตัวรถยนต์กระบะ 4 ประตู ได้กลิ่นคล้ายยาบ้า และมองเข้าไปที่กระจกรถยนต์พบกระสอบวางอยู่หลังเบาะผู้โดยสาร คาดว่าจะเป็นยาเสพติด จึงเรียกเจ้าของรถออกมา เพื่อขอทำการตรวจค้น ทราบชื่อคือนายวรจิตหรือเบิ้ม สำราญสม อายุ 49 ปี ผลการตรวจค้นภายในรถยนต์ 4 ประตู พบยาบ้าอยู่ในกระสอบผงชูรส รวมทั้งหมด 228,000 เม็ด และกัญชาแห้ง 5 กิโลกรัม ส่วนกำลังอีกชุดได้เข้าค้นที่ห้องพักหมายเลข 6 พบ มีผู้เข้าพัก 2 คน ทราบชื่อคือนายไพรมณีหรือบาส โคตรสขึง อายุ 35 ปี และน.ส.อนิสราหรือน็อต เข็มทอง อายุ 27 ปี ตรวจค้นภายในรถยนต์กระบะแค๊ปที่จอดอยู่ พบยาบ้า 24 เม็ด ซุกซ่อนในช่องเก็บของด้านหลังเบาะคนขับ จึงควบคุมตัวทั้งหมดมาสอบถสวน
โดยนายวรจิตหรือเบิ้ม สำราญสม ให้การว่า รับคำสั่งจากผู้ค้าชาวลาว โดยจะได้รับค่าจ้างกระสอบละ 30,000 บาท ให้นำยาบ้าจากบ้านสีนวล ต.ชานุมาน อ.ชานุมาน จ.อำนาจ ไปส่งที่ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ใช้เส้นทาง ยโสธร ร้อยเอ็ด มหาสารคาม และจังหวัดต่างๆในภาคอีสานโดยให้นายไพรมณี และน.ส.อนิสรา ซึ่งเคยนำยาบ้าไปส่งด้วยกันเมื่อครั้งที่แล้ว ขับรถยนต์กระบะรีโว่แบบแต่งซิ่ง นำทาง ทำหน้าที่เป็นสเก๊าหน้า คอยสอดส่องดูว่ามีด่านตำรวจหรือไม่ กระทั่งขับถึง อ.เชียงยืน แต่ติดต่อผู้ซื้อไมได้ จึงกลับมาที่ อ.สมเด็จ เข้าพักที่รีสอร์ท เพื่อรอนำยาไปส่งอีกครั้ง กระทั่งถูกตามจับได้เสียก่อน เจ้าหน้าที่จึงนำตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตามจากขยายผลตรวจยังสามารถยึดยาบ้า 10 เม็ดในห้องนอนที่บ้านของนายไพรมณีและน.ส.อนิสรา ที่ อ.เมือง จ.ยโสธร พร้อมกับดำเนินการยึดทรัพย์ตามาตรการ ทั้งรถยนต์ เงินสด ทองคำ และบัญชีธนาคารรวมกว่า 10 รายการ มูลค่าว่า 1,606,100 บาท
พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า หลังเทศกาลปีใหม่จะมีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านนำยาบ้ามาส่งในเขตพื้นที่ จ.ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ และจังหวัดอื่นๆในภาคอีสาน เพราะช่วงมีใหม่มีด่านตรวจจำนวนมาก ดังนั้นเจ้าหน้าที่ชุดปส.ตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ นำโดยพ.ต.ท.ภฤศ ภาสว่าง รองผกก.(ป.)สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ในฐานะหัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติด จ.กาฬสินธุ์ จึงได้วางแผนจับกุม โดยแบ่งกำลังออกตรวจในเส้นทางที่คาดว่ากลุ่มผู้ค้าจะใช้เป็นเส้นทางผ่าน กระทั่งเวลา 05.30 น.ของวันที่ 10 ม.ค.63 พบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน ขับตามกันมา ซึ่งคันแรกเป็นรถกระบะแค็ปแบบแต่งซิ่ง สีขาวยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว้ ทะเบียน ผจ 4972 อุบลราชธานี ส่วนคันตามเป็นกระบะ 4 ประตู ยี่ห้อโตโยต้า สีน้ำตาล ทะเบียน 7849 กรุงเทพ ขับมุ่งหน้ามาทาง อ.สมเด็จ เจ้าหน้าที่จึงได้ขับติดตาม พบว่ารถยนต์ต้องสงสัยทั้งสอง ขับเลี้ยวเข้าไปในรีสอร์ทแห่งหนึ่งใน อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์
โดยรถยนต์ 4 ประตู ได้เข้าจอดที่ห้องหมายเลข 5 ส่วนกระบะแค็ป จอดอยู่หน้าห้องหมายเลข 6 เจ้าหน้าที่จึงเดินไปสำรวจรอบตัวรถยนต์กระบะ 4 ประตู ได้กลิ่นคล้ายยาบ้า และมองเข้าไปที่กระจกรถยนต์พบกระสอบวางอยู่หลังเบาะผู้โดยสาร คาดว่าจะเป็นยาเสพติด จึงเรียกเจ้าของรถออกมา เพื่อขอทำการตรวจค้น ทราบชื่อคือนายวรจิตหรือเบิ้ม สำราญสม อายุ 49 ปี ผลการตรวจค้นภายในรถยนต์ 4 ประตู พบยาบ้าอยู่ในกระสอบผงชูรส รวมทั้งหมด 228,000 เม็ด และกัญชาแห้ง 5 กิโลกรัม ส่วนกำลังอีกชุดได้เข้าค้นที่ห้องพักหมายเลข 6 พบ มีผู้เข้าพัก 2 คน ทราบชื่อคือนายไพรมณีหรือบาส โคตรสขึง อายุ 35 ปี และน.ส.อนิสราหรือน็อต เข็มทอง อายุ 27 ปี ตรวจค้นภายในรถยนต์กระบะแค๊ปที่จอดอยู่ พบยาบ้า 24 เม็ด ซุกซ่อนในช่องเก็บของด้านหลังเบาะคนขับ จึงควบคุมตัวทั้งหมดมาสอบถสวน
โดยนายวรจิตหรือเบิ้ม สำราญสม ให้การว่า รับคำสั่งจากผู้ค้าชาวลาว โดยจะได้รับค่าจ้างกระสอบละ 30,000 บาท ให้นำยาบ้าจากบ้านสีนวล ต.ชานุมาน อ.ชานุมาน จ.อำนาจ ไปส่งที่ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ใช้เส้นทาง ยโสธร ร้อยเอ็ด มหาสารคาม และจังหวัดต่างๆในภาคอีสานโดยให้นายไพรมณี และน.ส.อนิสรา ซึ่งเคยนำยาบ้าไปส่งด้วยกันเมื่อครั้งที่แล้ว ขับรถยนต์กระบะรีโว่แบบแต่งซิ่ง นำทาง ทำหน้าที่เป็นสเก๊าหน้า คอยสอดส่องดูว่ามีด่านตำรวจหรือไม่ กระทั่งขับถึง อ.เชียงยืน แต่ติดต่อผู้ซื้อไมได้ จึงกลับมาที่ อ.สมเด็จ เข้าพักที่รีสอร์ท เพื่อรอนำยาไปส่งอีกครั้ง กระทั่งถูกตามจับได้เสียก่อน เจ้าหน้าที่จึงนำตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตามจากขยายผลตรวจยังสามารถยึดยาบ้า 10 เม็ดในห้องนอนที่บ้านของนายไพรมณีและน.ส.อนิสรา ที่ อ.เมือง จ.ยโสธร พร้อมกับดำเนินการยึดทรัพย์ตามาตรการ ทั้งรถยนต์ เงินสด ทองคำ และบัญชีธนาคารรวมกว่า 10 รายการ มูลค่าว่า 1,606,100 บาท