“มนัญญา" ลุยปราบทุจริตสหกรณ์ สั่ง 2 กรม เร่งร่างกฎหมายใหม่ ลั่นประธานกรรมการ ครบวาระ 2 ปีห้ามวนมาเป็นซ้ำ ป้องแสวงหาผลประโยชน์ จี้ ตำรวจส่งสำนวนฟ้อง6อดีตกรรมการสหกรณ์สโมสรรถไฟ ร่วมหัวโกงกู้เงินกว่า 2.2 พันล้านบาทส่งอัยการ 16 ม.ค.นี้ วันที่ 10 ม.ค. น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการกรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เร่งรัดร่างกฎหมายสหกรณ์ใหม่ เพื่อให้กระชับมากขึ้นโดยเฉพาะมาตรการดำเนินการกับผู้กระทำการทุจริตและป้องกันปัญหาการแสวงหาผลประโยชน์ในสหกรณ์ทุกประเภท โดยให้ร่างระเบียบในเรื่องการดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ และกรรมการ เมื่อเป็นครบวาระ 2 ปีแล้วห้ามวนกลับมาเป็นอีก เพราะได้เกิดปัญหาการทุจริตขึ้นหลายแห่งอย่างที่สังคมได้รับทราบมาต่อเนื่อง รวมทั้งกรณีคณะกรรมการสหกรณ์ มีการเบิกจ่ายเงิน ขณะนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ ยังไม่มีระบบแจ้งเตือนหรือส่งแมสเซสเข้ามือถือให้กับสมาชิกได้รับทราบ จึงได้สั่งกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ไปวางระบบให้เหมือนกับธนาคาร เวลาเบิกเงินจากบัญชี จะมีข้อความส่งมาบอกว่าเบิกจากบัญชีไปแล้วเท่าไหร่เพื่อสมาชิกจะได้รับรู้เรื่องยอดเงินในบัญชีของสหกรณ์ “สั่งเร่งด่วนให้ไปทำระบบแมสเซส มีข้อความแจ้งเตือนเข้าโทรศัพท์มือถือของสมาชิกทุกคนด้วย ตอนนี้หากมีการเบิกไป50ล้านบาท สมาชิกไม่มีสิทธิทราบ หรือ รับรู้การเคลื่อนไหวในบัญชีของสหกรณ์ออมทรัพย์ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กรมส่งเสริมสหกรณ์ ไปร่างกฎหมายใหม่ เกิดความกระชับ โดยเฉพาะคนที่เคยประธานกรรมการ ไม่ต้องมาเป็นแล้ว ไม่มีสิทธิ กลับมาแล้ว ทุกครั้งเกิดปัญหาเพราะกลับมาเป็นอีกเกิดซ้ำปัญหาวนเวียน ไม่ทราบเหมือนกันว่าที่ผ่านมาอยู่กันอย่างไร จึงหมักหมมปัญหาไว้มาก อย่างไรก็ตามสหกรณ์ส่วนที่ดี มีความเข้งแข็งมีเยอะมากเพราะประธานกรรมการ เป็นผู้เสียสละ มาทำงานให้ส่วนร่วม สร้างประโยชน์ให้กับสมาชิก สำหรับกรณีการทุจริตกู้เงินสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ กว่า 2 พันล้านบาท อดีตประธานและกรรมการรวม 6คน อนุมัติการทำสัญญากู้เงินจากสหกรณ์ 199 สัญญา โดยเร่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่งสำนวนให้กับอัยการ ซึ่งทางตำรวจได้ รับปากว่าจะส่งสำนวนทั้งหมดวันที่ 16ม.ค.นี้ รวมทั้งจะเร่งสอบสวนสหกรณ์ออมทรัพย์อีก3-4แห่งที่มีการร้องเรียนการทุจริตเข้ามาที่ตน”รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าว ทั้งนี้ อดีตกรรมการชุดดังกล่าว 6 ราย ที่ได้มีการอนุมัติเงินกู้พิเศษโดยมิชอบให้กับสมาชิก 6 รายรวม 199 สัญญา วงเงินกว่า 2,279 ล้านบาทในระหว่างปี 2555-60 นั้นทางตำรวจเจ้าของคดีแจ้งว่าจะยื่นต่ออัยการและเมื่อคดีถึงที่สุดก็จะติดตามทรัพย์มาขายเพื่อนำเงินมาคืนสหกรณ์ได้ โดยนายบุญส่ง หงส์ทอง อดีตประธานสหกรณ์กับพวกอีก 5 คนร่วมกันทุจริตและนำเงินไปซื้อที่ดินที่ อ.แก่งกระจานในชื่อตนเอง โดยเป็นเงินกู้ชื่อนายบุญส่ง 658 ล้านบาท นายวีระชัย ศรีสวัสดิ์ 601 ล้านบาท นายนรินทร์ โพธิ์ศรี 449 ล้านบาท นายปรีชา ธนะไพรินทร์ 395 ล้านบาท นายบัญชา ช่วยประสิทธิ์ 170 ล้านบาท และนายประพันธ์ อำพันฉาย 160 ล้านบาท