ในที่สุด “บิ๊กโจ๊ก” ก็เปิดหน้า ดับเครื่องชน “บิ๊กแป๊ะ” รุ่นพี่สีกากี ที่ห่างกัน 11 รุ่น....หลังจากที่พยายามกลบเกลื่อนรอยร้าว มาตลอด !! เมื่อ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล โดนยิงรถจน เปิดหน้าซัด โยงคดี สกัดซื้อ Biometrics ที่มีความไม่โปร่งใส....บี้ “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ให้รับผิดชอบ หากจับคนร้ายยิงรถไม่ได้ ตำรวจ และคนในวงการสีกากี รู้กันดีว่า เกิดอะไรขึ้น มาก่อนหน้านี้ และ มาจนบัดนี้ ..... ร้าวลึก ที่ผ่านมา มีความพยายามกลบเกลื่อนรอยร้าวนั้น มาตลอด....ด้วยความที่เป็น ทีมบิ๊กป้อม ด้วยกันทั้งคู่ “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้ชื่อว่าเป็นน้องเลิฟ ของ “บิ๊กป้อม” ที่เนรมิตเก้าอี้ ผบ.ตร.ให้ ทั้งๆที่มีอายุราชการ เหลือถึง 5 ปี และ เป็นยาวมาจน เข้าปีที่ 5 ส่วน “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล นั้น ได้ชื่อว่าเป็น ลูกรักลูกเลิฟ ของ บิ๊กป้อม ที่มาแรงขึ้น fast track ตลอด จนถูกมองว่า จะเป็น ผบ.ตร.ในไม่ช้า แม้จะยังอายุน้อย เหลืออายุราชการอีก 10 ปี จนทำให้มีพาวเวอร์ แถม ลุงป้อม ซึ่งตอนนั้น คุมตำรวจ ให้ช่วยจัดโผตำรวจ และบริหารจัดการหลายเรื่อง ที่เป็น “ว.5” แต่ชีวิตเปลี่ยน..... จากการจัดโผตำรวจ ที่ไปเจอ “สายแข็ง” พลาด!! เลยโดนสหบาทา จนถูกเด้งฟ้าผ่า พ้น ผบช.สตม. เข้ากรุฯ แถมให้ย้ายโอนจากตำรวจ มาเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ อยู่ทำเนียบฯ ตอนนั้น “บิ๊กโจ๊ก” จึงได้รู้ว่า ตัวเองมี ศัตรูเพียบ ในช่วงนั้น “บิ๊กโจ๊ก” นำเอกสารหลักฐานต่างๆ เดินสายชี้แจง ผู้ใหญ่หลายคน รวมทั้ง นายกฯบิ๊กตู่ และ บิ๊กป้อม ...แต่ก็ไม่มีใครช่วยอะไรได้ รังแต่จะเพิ่มความขัดแย้ง ลึกๆ กับ บิ๊กแป๊ะ มากขึ้น จุดพีค คือ เมื่อมีข่าวเข้าหู บิ๊กแป๊ะ ว่า มีแผนเลื่อยขาเก้าอี้ ผบ.ตร. ในความเงียบ ที่ บิ๊กโจ๊ก เก็บตัว แต่มีความเคลื่อนไหว ตลอด ...ขณะที่ บิ๊กแป๊ะ ก็ต้องดูแลเก้าอี้ ตัวเอง จนที่สุด เกิดเหตุยิงรถ บิ๊กโจ๊ก ย่านบางรัก แต่ บิ๊กโจ๊ก ไม่ได้อยู่ในรถ....ทว่า เชื่อว่า มือปืนหมายชีวิต พร้อมปฏิเสธว่า ไม่ได้สร้างสถานการณ์ ยิงรถตัวเอง พร้อมเปิดหน้าผ่านสื่อ ให้สัมภาษณ์ และเดินสายออกทีวี หลายช่อง .... ตอกย้ำ คดีคัดค้านซื้อBiometrics อ้าง “ผู้มีอำนาจ” ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่อาจติดคุก หลังเกษียณ จนทำให้ ถูกมองถึงความ ขัดแย้งกับ บิ๊กแป๊ะ ผบ.ตร. ท่ามกลางการถูกจับตามองว่า เรื่องนี้จะจบอย่างไร.... ในเวลา 9 เดือน บนเก้าอี้ ผบ.ตร. และความพยายาม ที่จะกลับมาเป็น ตำรวจ อีกครั้ง ของ บิ๊กโจ๊ก แต่ ศัตรู ยังเพียบ! บิ๊กป้อม พี่ใหญ่ ที่ยังมีบารมี ในวงการสีกากี และ บิ๊กตู่ ในฐานะที่คุมตำรวจ จะต้องหย่าศึก หรือไม่ เพราะ บิ๊กโจ๊ก ก็ยังเป็น น้องรัก ของ บิ๊กป้อม ยังคงมอบหมายงานต่างๆ แบบ ว.5 ให้รับผิดชอบอยู่ จึงทำให้บิ๊กโจ๊ก ยังคงมีเพาเวอร์ในวงการตำรวจ แต่ในทางเปิดเผย พลเอกประวิตร จะเลี่ยงตอบเรื่อง บิ๊กโจ๊ก มาตลอด และทำให้เข้าใจว่า ไม่ได้สนิทสนม หรือติดต่อกับ บิ๊กโจ๊ก อีก เมื่อ เกิดเรื่อง บิ๊กโจ๊ก ถูกยิงรถ พลเอกประวิตร ก็พยายาม ตัดตอนตนเองออกมา ด้วยการกล่าวว่าไม่รู้เรื่องและไม่ได้คุยกับ บิ๊กโจ๊ก ไม่มีเรื่องอะไรจะคุย แต่เมื่อส่อเค้าบานปลาย. บิ๊กโจ๊ก ไล่บี้ บิ๊กแป๊ะ อย่างหนัก โดยเชื่อมโยงไปที่ การที่ตนเองคัดค้านการซื้อเครื่องสแกนใบหน้า Biometrics และพาดพิง ผู้มีอำนาจในสตช. รวมทั้ง จี้ให้ บิ๊กแป๊ะ รับผิดชอบ หากจับตัวคนร้ายไม่ได้ แถม มีคลิปเสียง “บิ๊กแป๊ะ” โทรคุย กับ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร. สั่งไม่ให้ยุ่ง คดี บิ๊กโจ๊ก แต่ให้ทาง “บช.น.” ดูแล เพราะมองว่า มีการ “เตี้ยม” กันมา อันเป็นจังหวะ ที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ไปต่างประเทศพอดี มีกำหนดกลับ 12 ม.ค. 2563 แต่ก็รีบกลับมาทันที เพราะเป็นเรื่องร้อน เพราะฝั่ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ก็มองว่า เหตุการณ์ยิงรถ เป็นการจัดฉาก ขึ้น ร้อนถึง พี่ใหญ่อย่าง พล.อ.ประวิตร ในฐานะผู้มีบารมีในวงการสีกากี ต้องเคลียร์ จึงบอกกับสื่อว่า พร้อมที่จะคุย และเคลียร์ ก็บอกกับนักข่าวว่า ถ้าเจอ บิ๊กแป๊ะ และ บิ๊กโจ๊ก ก็จะพูด แต่ พล.อ.ประวิตร ก็ออกตัวว่า ตอนนี้ ตนเองไม่ได้คุมตำรวจ แล้ว ทั้งนี้ เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คุมเอง ส่วนการจัดซื้อ Biometrics ในขณะนั้น พล.อ.ประวิตร ระบุว่า ตำรวจเป็นผู้ดำเนินการ แต่เครื่องนี้ก็มีประสิทธิภาพดี แต่ ไม่รู้ความคืบหน้า เพราะตนเองไม่ได้คุมตำรวจแล้ว ในวงการสีกากี รู้กันดีว่า อะไรจะเกิดขึ้น นับจากนี้ โดยเฉพาะเมื่อคลิป สนทนา ของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กับ พล.ต.อ.วิระชัย หลุดออกมา และส่งผลให้ พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ ยิ่งไม่พอใจ อย่างหนัก กับคำพูดของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ถึงขั้นเรียกร้องให้บิ๊กแป๊ะลาออก จนถูกจับตามองว่า ความขัดแย้งครั้งนี้ พล.อ.ประวิตร จะเคลียร์ได้ หรือเอาอยู่ หรือไม่ ? เพราะอาจต้องถึงมือ พล.อ.ประยุทธ์ ที่คุมทั้งตำรวจ และเป็นนายกฯ ที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักนายกฯ เพราะ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ก็ถือเป็น คนสำคัญ ที่ช่วยงาน พล.อ.ประวิตร มาตลอด ในงานว.5 ต่างๆ รวมทั้ง งานการเมือง ส่วน พล.ต.อ. จักรทิพย์ ก็เป็นกำลังหลักของ รัฐบาล คสช. และ”3 ป.” มาตลอด และยังเป็นเพื่อนรัก ตท.20 ของ “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ที่เปี่ยมพาวเวอร์ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ยังอยู่ใน ตำแหน่งอีก 9 เดือน ก็ยังมีอำนาจอยู่ และอาจส่งผลให้เกิดความแตกแยก ในหมู่ตำรวจ ที่ก็มี สังกัด มีพวก มีนาย ทั้งสิ้น เพราะ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ก็มีทีมกองหนุน ส่วน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ก็มีลูกน้อง ในตำรวจ ไม่น้อย และยังหวังที่จะได้กลับมา เป็นตำรวจ อีกครั้ง เพราะ ย้อนกลับไป ในช่วงที่ถูกมองว่า ขัดแย้ง และ “บิ๊กโจ๊ก” ใหญ่กว่า บิ๊กแป๊ะ นั้น บิ๊กโจ๊ก สยบข่าว ด้วยการ โพสต์ เฟสบุ้ก ส่งความในใจถึง “พี่แป๊ะ” จาก “น้องโจ๊ก” เพื่อยืนยันว่า ยังเคารพรัก ไม่ว่า จะมีข่าวลือใดๆ หรือ ใครจะพยายาม เสี้ยม อย่างไรก็ตาม ก็ไม่อาจทำลายความสัมพันธ์ ได้ แถม ชื่นชม เยินยอ “พี่แป๊ะ” อย่างหนัก ชื่นชมในความเป็นพี่ ยกย่องในหน้าที่ผู้บังคับบัญชา “คงทราบกันว่าข่าวคราวที่ออกมาเมื่อปีก่อน พูดกันถึงตำรวจ ยศ พล.ต.ต. ใหญ่กว่า พล.ต.อ. ซึ่งแน่นอนว่า สื่อหลายสำนักชี้นำว่า พล.ต.ต. คนนั้นคือผม เพราะภาพที่เผยแพร่ออกสู่สายตาประชาชนมันสร้างความเข้าใจไปในทิศทางนั้น พี่แป๊ะ หรือ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. คือรุ่นพี่ที่ผมเคารพรัก และเป็นต้นแบบตำรวจที่เพียบพร้อมหลายๆด้าน ใจถึง พึ่งได้ ทำงานเก่ง สมเป็นผู้บังคับบัญชา อีก 1 ท่าน ที่น่ายกย่อง พี่แป๊ะ ดำรงตำแหน่งที่สำคัญ ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติมามากมาย ล้วนแล้วแต่เป็นตำแหน่งหลักที่มุ่งพัฒนา บำบัดทุกข์บำรุงสุขสู่ประชาชน ณ วันนี้ กับตำแหน่งผู้นำสูงสุดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นความรับผิดชอบที่เหมาะสมลงตัว ด้วยนโยบายการกวาดล้างอาชญากรรมอย่างเข้มข้นในรอบหลายปีที่ผ่านมา จึงไม่แปลกอะไรที่ตำรวจไทยขยันขันแข็ง ลงพื้นที่กวาดล้างอาชญกรรม ขับเคลื่อนงานสุดขีด ความสามารถ “ภาพที่ไม่ต้องสร้าง” เรื่องจริงที่ต่างรู้กันอยู่แก่ใจ ความเคารพในฐานะผู้บังคับบัญชา และฐานะน้องร่วมสถาบัน ข่าวลือที่แพร่สะพัด จึงไม่สามารถทำลายความสัมพันธ์ใดๆ ด้วยความเคารพรักอย่างสูง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. (น้องโจ๊ก) แต่ทุกอย่างกลายเป็นอดีต ไปแล้ว กลายเป็นศึกสายเลือด สีกากี พี่น้อง แถมทั้งเป็น คนสำคัญ กำลังหลักของ 3 ป. เสียด้วย สะเทือน กองหนุน สะเทือน ฐานอำนาจ บิ๊กตู่ มิใช่น้อย !