ย้ำทั้งผู้ประกอบกิจการรพ.เอกชน/คลินิก หากพบผู้ป่วยที่มาจากพื้นที่เสี่ยงต้องรีบรายงานกรมควบคุมโรคด่วน นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) ก.สาธารณสุข กล่าวว่า จากกรณีมีการพบผู้ติดเชื้อไวรัสปอดอักเสบหลายราย ในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ขณะนี้จะยังไม่พบรายงานการเสียชีวิต และสาเหตุการก่อโรค แต่เพื่อป้องกันมิให้เกิดการแพร่กระจายของโรคในประเทศไทย กรม สบส.จึงเน้นย้ำให้ผู้ประกอบกิจการ และผู้ดำเนินการโรงพยาบาลเอกชน/คลินิกทุกแห่ง โดยเฉพาะในแหล่งที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าออกอย่างพลุกพล่าน อาทิ สีลม สุขุมวิท ฯลฯ จะต้องเพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวัง และคัดกรองผู้ป่วยของสถานพยาบาล ใน 4 มาตรการ ประกอบด้วย 1. มีการติดป้ายแสดงข้อความบ่งชี้อาการของผู้เข้าข่ายต้องสงสัยโรค เพื่อแจ้งเตือนประชาชน และเจ้าหน้าที่ให้เห็นได้ชัดเจนในสถานพยาบาล 2.จัดตั้งหน่วยคัดกรองเป็นช่องทางเฉพาะ แยกจากผู้ป่วยนอกทั่วไปหรือห้องฉุกเฉิน ให้บริการสำหรับผู้ที่เข้าข่ายต้องสงสัย 3.หากสถานพยาบาลมีการนัดหมายผู้ป่วยจากประเทศจีน หรือประเทศที่พบการระบาดของโรคให้มีกระบวนการคัดกรองผู้ป่วยอย่างเข้มงวด และ 4.การส่งต่อผู้ป่วยที่ต้องสงสัยหรือเข้าเกณฑ์จะต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด มีการประสานและรายงานข้อมูลไปยังกรมควบคุมโรค ห้ามปล่อยให้ผู้ป่วยเดินทางไปรับการรักษาต่อด้วยตนเอง ด้านทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรม สบส. กล่าวว่า ทั้งนี้ กรม สบส.ได้มอบหมายให้กองสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ ส่งหนังสือแจ้งเวียนมาตรการเฝ้าระวัง และคัดกรองผู้ป่วยแก่สถานพยาบาลเอกชน เพื่อให้เกิดการปฏิบัติเป็นมาตรฐานเดียวกัน และหากพบผู้ป่วยที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงซึ่งมีอาการป่วยด้วยไข้สูง หรือมีอาการติดเชื้อที่ปอดและทางเดินหายใจอย่าได้นิ่งนอนใจ ให้รีบรายงานไปที่กรมควบคุมโรค ผ่านสายด่วน 1422 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบและควบคุมมิให้เกิดการแพร่กระจายของโรคโดยทันที