สำหรับคนที่เต็มที่ในการใช้ชีวิตแบบ Work Hard, Play Harder แล้วล่ะก็ คงจะรู้ซึ้งถึงความสุขเวลาได้ออกไปปาร์ตี้กับเพื่อนฝูง บทสนทนาหลากรส คลุกเคล้าไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะกับโอกาสดีๆ ที่ได้ปล่อยร่างกายให้เคลื่อนไหวไปตามจังหวะของดนตรี นับเป็นตัวช่วยในการปลดความเครียดที่สะสมอยู่ในสมองให้ไหลไปกองในแก้วว่างเปล่าที่เพิ่งกระดกหมดไปได้อย่างดี แต่ไอ้อาการแฮงค์โอเวอร์ที่ทำให้ลุกไม่ขึ้นไปครึ่งวัน แถมยังไปออกกำลังกายตามแผนที่วางไว้ไม่ไหวก็ออกจะเป็นการแลกเปลี่ยนที่หนักเกินไปสักหน่อย คุณทนงศักดิ์ วงษาโสม Fitness Training and Development Manager จากฟิตเนส เฟิรส์ท บอกว่าการดื่มเที่ยวก็นับเป็นวิธีผ่อนคลายไม่ให้ร่างกายแบกรับความเครียดสะสมไว้ได้ แต่จะสนุกกับการดื่มและดูแลตัวเองให้สมดุลได้อย่างไรนั้น ก็ต้องเข้าใจผลกระทบของแอลกอฮอลต่อร่างกายและการออกกำลังกายเสียก่อน แอลกอฮอล์ส่งผลต่อร่างกายอย่างไร หากได้รับในปริมาณมากจะส่งผลให้เกิดสภาวะขาดน้ำ เนื่องจากฤทธิ์ของแอลกอฮอลกระตุ้นให้ร่างกายขับน้ำในปริมาณที่มากกว่าน้ำที่ร่างกายได้รับ วิตามินและเกลือแร่เสียสมดุล กระทบต่อการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย อวัยวะต่างๆ แย่งกันดึงน้ำไปใช้ หัวใจเต้นเร็ว ประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลง การทำงานของระบบประสาทปั่นป่วน เมื่อรวมทุกอย่างเข้าด้วยกันก็เป็นที่มาของอาการแฮงค์โอเวอร์ในวันต่อมานั่นเอง แต่นอกจากตื่นมาแล้วจะปวดหัวตึ้บ ปากแห้ง หมดเรี่ยวแรง แถมพะอืดพะอม ยังอาจได้น้ำหนักเพิ่มมาอีกด้วยเพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอลมีปริมาณแคลอรี่สูง ยกตัวอย่าง ไวน์ 1 แก้ว ให้พลังงานประมาณ 120 แคลอรี่ เบียร์ 1 กระป๋อง ให้พลังงานประมาณ 150 แคลอรี่ (แอลกอฮอล์ 1 กรัม ให้พลังงาน 7 แคลอรี่) ที่สำคัญตัวเลขจริงอาจจะสูงกว่านี้อีกขึ้นอยู่กับยี่ห้อและชนิดของแอลกอฮอล์ เพราะฉะนั้นคนที่ดื่มเป็นประจำแล้วไม่ออกกำลังกายก็มีสิทธิ์น้ำหนักเพิ่มง่ายนั่นเอง ถึงกระนั้นหนทางสำหรับคนที่รักการใช้ชีวิตก็ยังไม่ถึงทางตัน หากมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงก็พร้อมสำหรับทุกกิจกรรมความสนุกที่ต้องการ ดื่มก่อนออกกำลังกายหรือออกกำลังกายก่อนดื่มดี? ดื่มแล้วออกกำลัง จากข้อมูลของ INDI (Irish Nutrition + Dietetic Institute) ระบุถึงผลกระทบของการดื่มแอลกอฮอลที่ส่งผลต่อการออกกำลังไว้ว่า 1. กล้ามเนื้อทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ เนื่องจากปริมาณน้ำในร่างกายน้อยจึงไม่สามารถขนส่งออกซิเจนไปใช้ได้อย่างเพียงพอต่อการใช้งานของกล้ามเนื้อ 2. ร่างกายผลิตพลังงานได้ไม่เพียงพอ เนื่องจากแอลกอฮอลรบกวนการทำงานของตับซึ่งทำหน้าที่ผลิตกลูโคสสำหรับร่างกายนำไปใช้ทำกิจกรรมหรือออกกำลัง 3. การทำงานของระบบประสาทถดถอย ส่งผลต่อปฏิกิริยาโต้ตอบ การทำงานประสานกันของอวัยวะ และความสมดุลของร่างกาย ดังนั้นถ้าถามว่าดื่มแล้วไปออกกำลังได้หรือเปล่า จึงมีคำแนะนำให้หยุดพัก 1 วันหลังจากคืนที่ดื่มมา แล้วค่อยออกกำลังกายในวันถัดไปเมื่อระบบต่างๆ ของร่างกายกลับมาทำงานตามปกติแล้วจะดีกว่า ออกกำลังก่อนดื่ม สำหรับคนที่คิดว่าถ้าดื่มแล้วออกกำลังกายไม่ไหว เราจะออกกำลังกายก่อนไปดื่มได้ไหมล่ะ คำตอบคือ ได้ แต่ต้องมั่นใจว่า 1. ดื่มน้ำทดแทนปริมาณน้ำที่เสียไปจากการออกกำลังกายเพียงพอแล้ว เนื่องจากเครื่องดื่มแอลกอฮอลเข้าสู่ร่างกายแล้วจะกระตุ้นให้เกิดการขับน้ำเพิ่มขึ้นอีก 4. เว้นระยะเวลาดื่มหลังออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาที เพื่อให้กล้ามเนื้อมีเวลาฟื้นฟูความเสียหายจากการใช้งาน เพราะการดื่มแอลกอฮอลทันทีจะฟื้นฟูของกล้ามเนื้อ 5. รับประทานอาหารก่อนดื่มหรือระหว่างดื่ม เนื่องจากแอลกอฮอลจะเร่งการเกิดกรดในกระเพาะอาหาร การดื่มขณะท้องว่างนอกจากจะมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคกระเพาะแล้ว ร่างกายยังดูดซึมแอลกอฮอลได้อย่างรวดเร็วทำให้เมาเร็วยิ่งขึ้นด้วย 6. มีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างและดื่มด่ำกับบรรยากาศไปด้วย การลิ้นรสอาหารอร่อยและสนุกกับการเต้นรำ ช่วยให้คุณไม่ต้องนั่งดื่มแอลกอฮอลแบบแก้วต่อแก้ว ช่วยให้ดื่มอย่างมีสติขณะที่สนุกกับปาร์ตี้ได้โดยไม่ต้องเมาค้างนั่นเอง ขอเพียงใส่ใจกับรายละเอียดของการดื่มกับการออกกำลังกายสักหน่อย เคล็ดลับในการใช้ชีวิตดีๆ แบบสายปาร์ตี้ก็ไม่ยากเลยใช่ไหม