สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายมาร์ก เอสเปอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ หรือเพนตากอน ออกมายืนยันว่า สหรัฐฯ จะไม่ถอนทัพออกจากอิรัก ตามมติของรัฐสภาอิรัก ที่มีอย่างเอกฉันท์ เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ต้องการให้กองทัพต่างชาติ อันหมายถึง สหรัฐฯ ถอนกำลังทหารออกจากอิรักไป นอกจากนี้ ทางการสหรัฐฯ ยังได้เสริมกำลังทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์เข้าไปในอิรักเพิ่มเติมอีกด้วย ได้แก่ นาวิกโยธิน จำนวน 2,200 นาย และเฮลิคอปเตอร์ ตลอดจนเรือรบอีก 3 ลำ พร้อมกันนี้ นายเอสเปอร์ ยังกล่าวด้วยว่า สหรัฐฯ ยังไม่ได้ตัดสินใจที่จะถอนกำลังทหารออกจากกรุงแบกแดด รวมถึงยังไม่ได้มีแผนการ หรือการเตรียมตัวใดๆ เพื่อถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ดังกล่าว และยังระบุอีกว่า ตนเชื่อว่าประชาชนชาวอิรักยังต้องการให้ทหารสหรัฐฯ ประจำการอยู่ในประเทศต่อไป ซึ่งดำเนินมาเป็นเวลานาน 17 ปี นับตั้งแต่เริ่มเข้ามาในปี 2546 เพื่อโค่นอำนาจซัดดัม ฮุสเซน อดีตผู้นำเผด็จการของอิรัก นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ ยังเผยอีกว่า ประชาชนชาวอิรักรู้ดีว่า สหรัฐฯ เข้ามาเพื่อช่วยให้ประเทศของพวกเขามีอธิปไตย เป็นอิสระ และมีความเจริญรุ่งเรือง