“เฉลิมชัย" ตีปี๊บ 9 แผนงานเร่งด่วนปี 63 ลุยปฏิวัติภาคเกษตร ฟุ้งประกันรายได้ พืชหลัก 5 ตัวราคาพุ่งทำเกษตรกรหายจน เมื่อวันที่ 4 ม.ค.นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงนโยบายขับเคลื่อนภาคการเกษตร ปี 2563-2564ว่า ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล ทั้งนโยบายเร่งด่วนและนโยบายหลักใน 9 เรื่องสำคัญ ตามแผนแม่บทที่เกี่ยวข้องกับภาคเกษตร ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ดังนี้ 1.จัดตั้งศูนย์ข้อมูลสารสนเทศการเกษตรแห่งชาติ โดยมีสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เป็นหน่วยงานหลัก ในการบริหารจัดการข้อมูล เชื่อมโยงฐานข้อมูลที่เกี่ยวข้องอย่างครบถ้วน ทั้งจากหน่วยงานภายในและนอกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้บริการแก่ภาครัฐ ภาคเอกชน เกษตรกร และประชาชนทั่วไปในการตัดสินใจ 2.จัดทำผังเมืองเกษตร โดยทำแผนการบริหารจัดการสินค้าเกษตรครบวงจร เน้นสินค้าสำคัญ 7 ชนิด (ข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง ยางพารา ปาล์มนํ้ามัน สับปะรด และมะพร้าว) กำหนดเขตการผลิต สินค้าเกษตรตามความเหมาะสมของพื้นที่ทั้งทางด้านกายภาพ (ดิน นํ้า) และด้านเศรษฐกิจ 3.ส่งเสริมพืช/อาหารอนาคต ที่มีศักยภาพ ตลาดมีความต้องการ มีอุตสาหกรรมต่อเนื่อง และให้ผลตอบแทนสูง 4.ส่งเสริมการบริโภค/ผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัยและเกษตรอินทรีย์ เน้นขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ 5.สร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าเกษตร โดยขับเคลื่อนแผนแม่บทเกษตรภายใต้ยุทธศาสต์ชาติ ซึ่งมีการส่งเสริมการผลิต เน้นตามศักยภาพของพื้นที่ 6.บริหารจัดการพื้นที่เสี่ยงจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทั้งภัยแล้ง นํ้าท่วม 7.บริหารจัดการทรัพยากรเพื่อการเกษตรทั้งระบบอย่างยั่งยืน ได้แก่ ทรัพยากรนํ้า ทรัพยากรดิน การจัดที่ดินทำกินให้แก่เกษตรกร รวมทั้งผลักดันร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรกรรมยั่งยืน 8.จัดตั้งศูนย์เทคโนโลยีทางการเกษตร ในพื้นที่ 77 จังหวัด และหน่วยให้บริการทางการเกษตร เพื่อให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงบริการทางการเกษตรได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น และ9.พัฒนาระบบโลจิสติกส์ด้านการเกษตร โดยพัฒนาระบบการจัดการผลผลิตทั้งก่อนและหลัง การเก็บเกี่ยว จัดหาและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สิ่งอำนวยความสะดวกด้านโลจิสติกส์สินค้าเกษตรเชื่อมโยงระบบโลจิสติกส์ในระดับท้องถิ่น ภูมิภาค และระหว่างประเทศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน “ที่ถือเป็นหัวใจของภารกิจคือการส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก และการขับเคลื่อนภาคการส่งออก โดยเศรษฐกิจฐานรากมีนโยบายประกันรายได้เกษตรกรใน 5 พืชเกษตร ได้แก่ ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ปาล์มนํ้ามัน และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ซึ่งในระยะเวลา 4 เดือนเศษ สามารถโอนเงินส่วนต่างพืชผลเกษตรที่ราคาตกตํ่าให้กับเกษตรกรได้ครบแล้วทั้ง 5 พืช ซึ่งจะมีมาตรการคู่ขนานในการที่จะช่วยตรึงราคาพืชเกษตรแต่ละตัวให้ดีขึ้น”นายเฉลิมชัย กล่าว